-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ทาบทามวุฒิสมาชิก มาร์โก รูบิโอ วัย 53 ปี นั่งแท่นรัฐมนตรีต่างประเทศ ส่งผลให้เขามีโอกาสที่จะได้เป็นชาวละตินคนแรกที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
-- ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่าจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (6.5 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยหวังว่างบช่วยเหลือดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนรวมกว่า 50 ล้านล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกัน
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า อะเมซอน (Amazon) กำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะสำหรับพนักงานส่งของ เพื่อช่วยนำทางไปยังจุดหมายและภายในอาคารต่าง ๆ เพื่อให้การจัดส่งสินค้าในขั้นตอนสุดท้ายถึงมือลูกค้าราบรื่นยิ่งขึ้น
-- แกร็บ โฮลดิ้งส์ (Grab Holdings) แอปเรียกรถและสั่งอาหารชั้นนำจากสิงคโปร์ ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้สำหรับปีงบประมาณ 2567 ในวันนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากบริษัทคาดการณ์ว่าบริการเรียกรถและบริการสั่งอาหารจะเติบโตแข็งแกร่งในช่วงเทศกาลปลายปีที่คึกคัก
-- พรรครัฐบาลของเกาหลีใต้ได้เสนอร่างกฎหมายเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) เพื่อมอบเงินสนับสนุนแก่ผู้ผลิตชิป และยกเว้นการจำกัดชั่วโมงการทำงานในประเทศ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขู่ไว้ว่าจะนำมาบังคับใช้
-- เที่ยวบินของสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส (Spirit Airlines) ไปยังกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติได้ถูกยิงในวันจันทร์ (11 พ.ย.) และต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐโดมินิกัน
-- นิวซีแลนด์ได้ประกาศคำขอโทษระดับชาติในวันนี้ (12 พ.ย.) ต่อเหยื่อและครอบครัวของเยาวชนและผู้ใหญ่กลุ่มเปราะบางนับแสนราย ที่ตกเป็นเหยื่อการทารุณกรรมทั้งทางร่างกายและทางเพศในสถานสงเคราะห์ของรัฐและองค์กรศาสนาตลอดช่วง 70 ปีที่ผ่านมา
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (12 พ.ย.) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนี ซึ่งปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐานของสหภาพยุโรป (HICP) เพิ่มขึ้นเป็น 2.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นไปตามข้อมูลเบื้องต้นที่ได้เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้
-- ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป (SoftBank Group) บริษัทผู้ลงทุนด้านเทคโนโลยีสัญชาติญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.01 ล้านล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเวลา 6 เดือน (เม.ย.-ก.ย.) ซึ่งเป็นการกลับมาทำกำไรเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นในพอร์ตการลงทุนของบริษัท