สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างแหล่งข่าวในวันนี้ (13 พ.ย.) ว่า เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ (Seven & i Holdings Co.) ยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีกญี่ปุ่น กำลังพิจารณาการเข้าซื้อกิจการโดยผู้บริหาร (MBO) ซึ่งจะทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทเอกชน เพื่อขัดขวางข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการจากคู่แข่งในแคนาดา
เซเว่น แอนด์ ไอ ผู้บริหารเชนร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น (Seven-Eleven) เผชิญแรงกดดันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาในการเพิ่มมูลค่าของบริษัทเพื่อป้องกันการเข้าซื้อกิจการจากอาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (Alimentation Couche-Tard) ซึ่งเป็นเชนร้านสะดวกซื้อจากแคนาดา
แหล่งข่าวระบุว่า ข้อตกลง MBO ดังกล่าวอาจมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทซึ่งอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านล้านเยน (3.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และอาจกลายเป็นดีล MBO ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเผยด้วยว่า เซเว่น แอนด์ ไอ กำลังพิจารณาหาแหล่งเงินทุนจากธนาคารและจากตระกูลอิโตะ ผู้ก่อตั้งธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการซื้อกิจการตามแผน
เมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ ได้เสนอซื้อหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของเซเว่น แอนด์ ไอ เป็นเงินสดในราคาหุ้นละ 14.86 ดอลลาร์ ซึ่งอาจมีมูลค่าอยู่ที่ราว 3.87 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่บริษัทปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเชนร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ของแคนาดาเสนอราคาต่ำเกินไปมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทแคนาดาได้ยื่นข้อเสนอใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่าข้อเสนอเดิมประมาณ 20% แต่เซเว่น แอนด์ ไอยังคงลังเลที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าว
ทั้งนี้ อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ เป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อแบรนด์ คูช-ตาร์ และเซอร์เคิล เค (Circle K) โดยมีร้านค้าประมาณ 17,000 แห่งในกว่า 30 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ขณะที่เซเว่น แอนด์ ไอ ดำเนินกิจการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น มากกว่า 80,000 แห่งทั่วโลก