ธุรกิจเคป๊อป (K-Pop) ส่วนใหญ่ยังคงซบเซาในไตรมาสที่ 3/2567 โดย 3 จาก 4 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้มีผลประกอบการที่แย่ลง เมื่อเทียบรายปี ขณะที่รายได้จากสตรีมมิ่งในช่วงครึ่งปีแรกยังไม่สามารถชดเชยการขาดทุนจากยอดขายอัลบั้มได้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า 4 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ต่างจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยไฮบ์ คอร์ปอเรชั่น (Hybe Corporation) เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและจดทะเบียนบนดัชนี KOSPI ขณะที่เอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเมนต์ (SM Entertainment) เจวายพี เอนเตอร์เทนเมนต์ (JYP Entertainment) และวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment) จดทะเบียนบนดัชนี Kosdaq ที่มีมูลค่าตลาดน้อยกว่า
นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ หุ้นของ Hybe ร่วงลงมาแล้ว 11% ส่วนหุ้นของ SM ร่วงลง 16% เช่นเดียวกับ YG ที่ร่วงลง 10.41% ขณะที่หุ้นของ JYP ทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด โดยดิ่งลงมากถึง 43%
อย่างไรก็ตาม จอห์น ยู และอลิเซีย แยป นักวิเคราะห์จากซิตี้ (Citi) แสดงมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจเคป๊อปในรายงานต้นเดือนที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตเร็วขึ้นในอนาคต
ซิตี้คาดการณ์ว่ารายได้รวมของค่ายเพลงทั้ง 4 จะเติบโตกว่า 21% ในปี 2568 และเกือบ 15% ในปี 2569 การกลับมาของกลุ่มศิลปินชื่อดังอย่าง บีทีเอส (BTS) และแบล็กพิงก์ (Blackpink) รวมถึงรายได้จากแพลตฟอร์มแฟนด้อมที่ดีขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพยุงรายได้
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของซิตี้เสริมว่า การกลับมาของสองวงดังนี้ "จะไม่เพียงช่วยสร้างรายได้จากอัลบั้มและคอนเสิร์ตเท่านั้น แต่ยังจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในหลาย ๆ ธุรกิจ เช่น แพลตฟอร์มแฟนด้อมจะมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น และศิลปินรุ่นน้องในสังกัดเดียวกันก็จะได้โอกาสเป็นวงเปิดในคอนเสิร์ตของรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียง"