ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (21 พ.ย.) โดยนักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของหุ้นเทคโนโลยีในภูมิภาค หลังจากที่อินวิเดีย (Nvidia) บริษัท AI ชั้นนำของสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด
อินวิเดียเปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 94% เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะ 3.508 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม รายได้ยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจาก 3 ไตรมาสก่อนหน้าซึ่งรายได้เพิ่มขึ้น 122%, 262% และ 265% ตามลำดับ
-- องค์การนาซา (NASA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) ว่า จะมอบหมายงานเพิ่มเติมภายใต้สัญญาในปัจจุบันให้กับบริษัทบลู ออริจิน (Blue Origin) และบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ในการพัฒนายานลงจอดที่จะขนส่งอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ไปยังพื้นผิวดวงจันทร์
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า นาซาจะมอบหมายภารกิจการสาธิตให้กับสเปซเอ็กซ์และบลู ออริจิน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบลงจอดสำหรับมนุษย์ในปัจจุบัน เพื่อออกแบบยานลงจอดสำหรับการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ หลังจากการตรวจสอบรับรองการออกแบบประสบความสำเร็จ
-- สหรัฐฯ ใช้สิทธิวีโต้ร่างมติในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) โดยร่างมติดังกล่าวเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างถาวรในฉนวนกาซาโดยทันที และไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับปล่อยตัวประกันทั้งหมด
ทั้งนี้ สมาชิกไม่ถาวรทั้ง 10 ชาติของ UNSC ได้ยื่นเสนอร่างมติดังกล่าว และได้รับการรับรองด้วยคะแนนเสียง 14-1 ขณะที่สหรัฐฯ เป็นชาติเดียวที่คัดค้าน โดยใช้สิทธิวีโต้ในฐานะสมาชิกถาวร
-- ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้ย้ำอยู่เสมอเกี่ยวกับความพร้อมที่จะเจรจาในประเด็นยูเครน
"ท่านประธานาธิบดีมักกล่าวย้ำอย่างต่อเนื่องถึงความพร้อมของท่านในการเจรจา" เพสคอฟกล่าว หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ปูตินได้สนทนาหารือกับโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามในยูเครน
-- ทาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงินบริษัท
ทาร์เก็ตระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.85 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.30 ดอลลาร์/หุ้น โดยกำไรต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ถึง 20% ซึ่งเป็นตัวเลขพลาดเป้ามากที่สุดในรอบ 2 ปี
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 1.7% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น
จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 6% ในการประชุมวานนี้ (20 พ.ย.) ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ BI มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย.เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
-- บูดี ซานโตโซ รัฐมนตรีการค้าของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียจะนำเข้าข้าวจำนวน 1 ล้านตันจากอินเดียภายในสิ้นปี 2567 เพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ
"เราจะนำเข้าข้าว 1 ล้านตันจากอินเดีย โดยกระบวนการติดต่อระหว่างภาคธุรกิจได้เสร็จสิ้นแล้ว และขณะนี้เรากำลังดำเนินกระบวนการติดต่อระหว่างหน่วยงานรัฐบาลเพื่อเร่งการนำเข้า" ซานโตโซกล่าว และเสริมว่า การหารือเกี่ยวกับการนำเข้าข้าวดังกล่าวได้มีขึ้นระหว่างประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ผู้นำอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย ในระหว่างการประชุม G20 ที่บราซิล
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันนี้ (21 พ.ย.) ได้แก่ สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. และ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board