ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ระบุว่า ความเสี่ยงด้านนโยบายของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ได้สร้างความวิตกกังวลอย่างมากต่อบรรดานักการเงินและผู้เชี่ยวชาญในเกาหลีใต้
ผลสำรวจซึ่งมีการเปิดเผยในวันนี้ (21 พ.ย.) ระบุว่า ประมาณ 56% ของผู้ที่เข้าร่วมการสำรวจในครั้งนี้ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของสหรัฐฯ หลังจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงต้นเดือนพ.ย.บ่งชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย โดยผู้เข้าร่วมการสำรวจมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงดังกล่าวมากเป็นอันดับสอง รองจากหนี้ภาคครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการสำรวจประจำปีของ BOK ประมาณ 80 คนซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่บริหารความเสี่ยง ผู้จัดการกองทุน และนักวิจัยด้านการเงิน โดยการสำรวจจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 29 ต.ค. - 8 พ.ย. ขณะที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ด้วยนโยบายหาเสียงที่รวมถึงการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากบรรดาประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นแรงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงิน และเป็นหนึ่งในประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงที่สุด
ความไม่แน่นอนด้านนโยบายของสหรัฐฯ อาจดำเนินต่อไปจนกว่าทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. 2568 และเริ่มดำเนินการตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง โดยความกังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของ BOK และธนาคารกลางทั่วโลก
คณะกรรมการ BOK จะประชุมนโยบายการเงินและตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากขึ้นคาดการณ์ว่า BOK จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.25% มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง