สัญญาฟิวเจอร์บิตคอยน์ที่มีการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Deribit ได้พุ่งขึ้นทะลุ 100,000 ดอลลาร์แล้ว หลังจากที่บิตคอยน์พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เหนือระดับ 98,000 ดอลลาร์ในตลาดสปอตวันนี้
สัญญาฟิวเจอร์บิตคอยน์ที่มีกำหนดส่งมอบในเดือนมี.ค.2568 พุ่งขึ้น 4.8% สู่ระดับ 101,992 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาส่งมอบเดือนมิ.ย.2568 และก.ย.2568 อยู่ที่ระดับ 104,948 ดอลลาร์ และ 107,690 ดอลลาร์ตามลำดับ
ราคาสัญญาฟิวเจอร์ดังกล่าวบ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าราคาสปอตของบิตคอยน์จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนมี.ค.2568 และหลังจากนั้นต่อไป
ทั้งนี้ Deribit เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายตราสารอนุพันธ์ของบิตคอยน์ รวมทั้งสกุลเงินคริปโทฯอื่น ๆ
บิตคอยน์พุ่งขึ้นเกือบ 30% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่การคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเพิ่มสภาพคล่องในตลาด
ผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งเป้าราคาบิตคอยน์ว่าจะสูงถึง 200,000 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมองว่าการคว้าชัยชนะของนายทรัมป์ และการที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะทำให้นายทรัมป์สามารถผลักดันการผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมคริปโทเคอร์เรนซี รวมทั้งการทำให้สหรัฐเป็นเมืองหลวงของคริปโทฯ
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า คณะทำงานของนายทรัมป์เตรียมสร้างตำแหน่งใหม่ในทำเนียบขาวเพื่อกำกับดูแลนโยบายด้านคริปโทเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ ซึ่งจะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมดังกล่าว ซึ่งเติบโตจากการเป็นกลุ่มเล็ก ๆ จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกระแสหลักของระบบการเงินและเทคโนโลยีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นายทรัมป์ยังระบุว่าจะปลดนายแกรี เจนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ซึ่งมีท่าทีไม่สนับสนุนคริปโทฯ
ขณะเดียวกัน บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยบวก หลังสื่อรายงานว่า บริษัททรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป (TMTG) ของนายทรัมป์กำลังเจรจาซื้อบริษัท Bakkt ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี รวมทั้งการเปิดซื้อขายออปชั่นบิตคอยน์ อีทีเอฟ (Bitcoin ETF) ของบริษัทแบล็กร็อก (BlackRock) ในตลาด Nasdaq