เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์ (S&P Global Ratings) ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของบริษัท 3 แห่งในเครืออดานี กรุ๊ป (Adani Group) ลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" ในวันนี้ (22 พ.ย.) โดยระบุถึงความเสี่ยงในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลังจากโกตัม อดานี ผู้ก่อตั้งบริษัทอดานี กรุ๊ป ถูกอัยการสหรัฐฯ ยื่นฟ้องในข้อหาติดสินบนและฉ้อโกง
อดานี และบุคคลอื่น ๆ อีก 7 คนรวมถึงหลานชายของเขาคือ สาการ์ อดานี ได้ถูกอัยการสหรัฐฯ ยื่นฟ้องเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ในข้อหาจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียจำนวน 265 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้ได้ครอบครองสัญญาการจัดหาพลังงานแสงอาทิตย์
เอสแอนด์พีระบุว่า การที่โกตัม อดานี ถูกฟ้องดำเนินคดีในสหรัฐฯ อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทอื่น ๆ ในเครืออดานี กรุ๊ป เนื่องจากผู้ก่อตั้งรายนี้นั่งอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทอื่น ๆ ภายในอดานี กรุ๊ป ซึ่งอาจบั่นทอนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและทำให้ต้นทุนการระดมเงินทุนปรับตัวสูงขึ้น
"อดานี กรุ๊ป อาจจำเป็นต้องเข้าระดมทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้อย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือไปจากการรีไฟแนนซ์ตามปกติ เมื่อพิจารณาจากแผนการผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เราเชื่อว่าธนาคารทั้งภายในประเทศและต่างประเทศบางแห่ง รวมทั้งนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ มองบริษัททั้งหมดในเครืออดานี กรุ๊ป เป็นบริษัทเดียวกัน และอาจจะจำกัดการลงทุนในบริษัทเครืออดานี กรุ๊ป ทั้งกลุ่ม" เอสแอนด์พีระบุ
ทั้งนี้ เอสแอนด์พีได้ทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือในธุรกิจของอดานี กรีน เอนเนอร์จี (Adani Green Energy) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาดังกล่าว เป็น "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ"
เอสแอนด์พีระบุว่า บริษัทอดานี อิเล็กทริซิตี (Adani Electricity) และอดานี พอร์ตส์ (Adani Ports) ได้ถูกปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือลงสู่ "เชิงลบ" เช่นกัน พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า อันดับความน่าเชื่อถือของทั้ง 3 บริษัทอาจจะถูกปรับลดลง หากพิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาเป็นความจริง
นอกจากนี้ เอสแอนด์พีคาดการณ์ว่า กระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทในเครืออดานี กรุ๊ป ทั้งหมดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่คาดว่าจะอ่อนแอลง