ไอดีซี (IDC) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดเปิดเผยว่า ยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกฟื้นขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 หลังจากชะลอตัวลงติดต่อกันสองปี แต่ยอดขายสมาร์ตโฟนของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ (Apple Inc) ขยายตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบรรดาบริษัทคู่แข่งที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ (Android) กำลังแซงหน้าแอปเปิ้ลอย่างรวดเร็วในตลาดจีนและตลาดเกิดใหม่
ข้อมูลจาก IDC ระบุว่า ยอดจัดส่งสมาร์ตโฟนโดยรวมทั่วโลกซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ลและบริษัทคู่แข่งด้วยนั้น จะเพิ่มขึ้น 6.2% หรือประมาณ 1.24 พันล้านเครื่องในปี 2567 แต่คาดว่ายอดจัดส่ง iPhone ของบริษัทแอปเปิ้ลอาจจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4%
อย่างไรก็ดี IDC มองว่า แอปเปิ้ลยังคงเป็นผู้นำในด้านการทำกำไร โดยราคาขายเฉลี่ยของสมาร์ตโฟนแอปเปิ้ลสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของบรรดาบริษัทคู่แข่งในระบบแอนดรอยด์รวมกันอยู่ที่ประมาณ 295 ดอลลาร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อมูลล่าสุดของ IDC สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่ไม่สม่ำเสมอของตลาดสมาร์ตโฟน ซึ่งทรุดตัวลงในช่วงหลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ก็ตาม โดยการเติบโตส่วนใหญ่ในตลาดสมาร์ตโฟนในปี 2567 มาจากอุปสงค์คงค้าง (pent-up demand) และจากภูมิภาคที่มีการเจาะตลาดสมาร์ตโฟนน้อยกว่า
ทั้งนี้ IDC ระบุว่า แม้มีการนำ AI เข้ามาใช้ในสมาร์ตโฟน แต่ก็ยังไม่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกตื่นเต้น โดยยอดการจัดส่งสมาร์ตโฟนทั่วโลกยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นสู่ระดับเดียวกันช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด และ IDC คาดว่ายอดจัดส่งสมาร์ตโฟนจะปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงหลายปีข้างหน้า