หัวหน้าหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของประเทศระบุว่า พายุไต้ฝุ่นหลายลูกที่พัดถล่มฟิลิปปินส์อย่างรุนแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อภาคเกษตรกรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2567 ชะลอตัวลง
"เราไม่สามารถควบคุมไต้ฝุ่นได้" อาร์เซนิโอ บาลิซากัน เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งชาติฟิลิปปินส์ (NEDA) ให้สัมภาษณ์กับนิกเกอิเอเชีย "โชคร้ายที่พายุไต้ฝุ่นเหล่านี้เกิดขึ้นติด ๆ กัน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในภาคเกษตรกรรม"
ทั้งนี้ ภาคการเกษตรคิดเป็นสัดส่วน 10% ขอ GDP ของฟิลิปปินส์
บาลิซากันคาดการณ์ว่า ความเสียหายจากพายุจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของ GDP ในไตรมาสสุดท้าย คล้ายกับที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. เมื่อสภาพอากาศเอลนีโญกระทบฤดูกาลปลูกข้าว และพายุไต้ฝุ่น 7 ลูกได้ถล่มพื้นที่บางส่วนของประเทศ
ในการประเมินสถานการณ์สำหรับไตรมาสปัจจุบัน บาลิซากันระบุว่า น้ำท่วมที่ยืดเยื้อได้ซ้ำเติมความเสียหายต่อภาคการเกษตร เนื่องจาก "พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงนั้นมีความอ่อนไหวต่อน้ำท่วมอย่างมาก"
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ปลูกผลไม้เขตร้อนและสินค้าเกษตรมูลค่าสูงหลายชนิดที่มีความสำคัญต่อการบริโภคภายในประเทศ พืชผลสำคัญเหล่านี้ประกอบด้วย กล้วย มะม่วง หัวหอม ข้าวโพด โกโก้ สับปะรด และทุเรียน