กรุ๊ปเอ็ม (GroupM) เอเจนซี่ซื้อสื่อยักษ์ใหญ่ระดับโลกในเครือดับบลิวพีพี (WPP) คาดการณ์ว่า รายได้จากโฆษณาทั่วโลกจะเติบโต 9.5% ในปี 2567 ทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 7.7% ในปี 2568
แม้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตลาดโฆษณาจะชะลอตัวลง แต่ด้วยแรงหนุนจากแพลตฟอร์มดิจิทัลทำให้อุตสาหกรรมนี้ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายงานการคาดการณ์สิ้นปี 2567 ของ GroupM ระบุว่า การเติบโตได้เร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปีนี้ และมีแนวโน้มรักษาอัตราการขยายตัวในระดับสูงไปจนถึงปี 2572 ซึ่งมากกว่าที่เคยประเมินไว้เมื่อปีก่อน
GroupM คาดการณ์ว่า กูเกิล (Google), เมตา (Meta), ไบต์แดนซ์ (ByteDance), อะเมซอน (Amazon) และอาลีบาบา (Alibaba) จะครองส่วนแบ่งรายได้เกินครึ่ง โดยรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากผู้ลงโฆษณาขนาดกลางและขนาดย่อมที่ลงผ่านแพลตฟอร์ม รวมผู้ลงนักโฆษณารายใหญ่ที่ซื้อโดยตรง
ตัวเลขนี้ไม่นับรวมงบโฆษณาการเมืองในสหรัฐฯ เนื่องจากทำให้ข้อมูลเบี่ยงเบนไปมาก โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า งบโฆษณาการเมืองในสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ สูงกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2563 ถึง 30%
รายงานของ GroupM ระบุว่า สื่อดิจิทัลซึ่งครองส่วนแบ่งมากที่สุดในตลาดโฆษณา มีแนวโน้มเติบโต 10% ในปี 2568 โดยจะครองส่วนแบ่ง 72.9% ของมูลค่าโฆษณาทั้งหมด และยังคงแซงหน้าสื่ออื่น ๆ โดยคาดว่าจะขยับขึ้นไปถึง 76.8% ของรายได้โฆษณารวมในปี 2572
ด้านโฆษณาทางโทรทัศน์ทั่วโลกจะเติบโตเพียง 1.9% สู่ระดับ 1.691 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2568 โดยทีวีแบบดั้งเดิมยังครองสัดส่วน 72.6% ของมูลค่าโฆษณาทางโทรทัศน์ทั้งหมด
ด้านการโฆษณาสื่อนอกบ้านคาดว่าจะเติบโต 7.1% ในปี 2568 ซึ่งทำผลงานดีกว่าสื่อเสียงที่คาดว่าจะทรงตัว และสื่อสิ่งพิมพ์ที่คาดว่าจะหดตัวลง 3%