สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) ยื่นฟ้องเอชเอสบีซี แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย (HSBC Bank of Australia Ltd.) ฐานล้มเหลวในการปกป้องลูกค้าที่สูญเสียเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับพวกมิจฉาชีพ
ASIC ระบุผ่านแถลงการณ์ในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ว่า HSBC ได้รับรายงานการทำธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต 950 ครั้งในระหว่างเดือนม.ค. 2563 - ส.ค. 2567 ส่งผลให้ลูกค้าสูญเงินราว 23 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (14.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยความเสียหายราว 16 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 6 เดือนตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 - มี.ค. 2567
แถลงการณ์ระบุว่า "ASIC กล่าวหา HSBC ออสเตรเลียว่า ไม่มีมาตรการควบคุมที่เพียงพอในการป้องกันและตรวจจับการทำธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต และล้มเหลวในการปฏิบัติตามพันธกิจของบริษัทในการตรวจสอบรายงานของลูกค้าเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกรอบเวลาที่กำหนด และการให้บริการธนาคารในเวลาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที"
ASIC ระบุว่า ธนาคารใช้เวลาเฉลี่ย 145 วันในการตรวจสอบรายงานของลูกค้าที่ถูกหลอกลวง และชี้ว่า ความผิดพลาดของ HSBC ออสเตรเลียนั้นเกิดขึ้นเป็นวงกว้างและเป็นระบบ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โฆษกของ HSBC กล่าวในอีเมลว่า "เรากำลังพิจารณาประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา และจะร่วมมือและทำงานร่วมกับ ASIC อย่างสร้างสรรค์ การปกป้องลูกค้าจากมิจฉาชีพยังคงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เรายังคงเดินหน้าลงทุนด้านการป้องกัน การตรวจจับ และการตอบสนองต่อการฉ้อโกงและการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง"