สำนักข่าว จิจิ เพรส (Jiji Press) ของญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) และนิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) เตรียมประกาศการเริ่มเจรจาควบรวมกิจการในวันนี้ (23 ธ.ค.) โดยบริษัทผลิตรถยนต์ทั้งสองแห่งพยายามหาทางอยู่รอดท่ามกลางภูมิทัศน์อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
รายงานระบุว่า ฮอนด้าและนิสสันจะจัดประชุมคณะกรรมการบริหารในวันนี้ เกี่ยวกับการเจรจาควบรวมกิจการ และจากนั้นจะมีการแถลงข่าวร่วมกัน โดยคาดว่าบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) ซึ่งเป็นพันธมิตรของนิสสัน จะเข้าร่วมการประชุมด้วย
การควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิ จะสร้างกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเมื่อพิจารณาจากยอดขาย รองจากโตโยต้า (Toyota) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) รวมทั้งจะเป็นการทำข้อตกลงที่นำไปสู่การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทสเตลแลนทิส (Stellantis) ในปี 2564
หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ฮอนด้าและนิสสันกำลังเจรจาเพื่อควบรวมกิจการกัน ซึ่งจะส่งผลให้มีการจัดตั้งบริษัทรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเมื่อพิจารณาในแง่ของปริมาณการผลิตรถยนต์ ท่ามกลางการแข่งขันที่เป็นไปอย่างดุเดือดในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ครองตลาดโดยบริษัทคู่แข่งในต่างประเทศ
แหล่งข่าวเปิดเผยกับนิกเกอิว่า ฮอนด้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสอง และนิสสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะจัดตั้งบริษัทโฮลดิง โดยมีเป้าหมายที่จะผนึกกำลังเป็นพันธมิตรด้านการผลิตรถยนต์เพื่อท้าชนกับบริษัทเทสลา (Tesla Inc) ของสหรัฐฯ และบริษัทผลิตรถ EV ของจีน เช่น บีวายดี (BYD)
นิกเกอิระบุว่า การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะสร้างพันธมิตรที่มีความสามารถในการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่างโตโยต้า มอเตอร์ และโฟล์คสวาเกน โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์รวมกันจะอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านคัน หากรวมยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งเป็นพันธมิตรของนิสสัน