ตรี วินาร์โน อธิบดีกรมแร่ธาตุและถ่านหินจากกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ธาตุของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตนิกเกิลรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กำลังพิจารณาจำกัดการผลิตแร่เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในตลาดต่างประเทศ
วินาร์โนกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาอุปทานส่วนเกินซึ่งทำให้ราคานิกเกิลทั่วโลกลดลง โดยเขายอมรับว่า ความขัดแย้งระดับโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซัพพลายเชนที่หยุดชะงัก เศรษฐกิจตกต่ำ และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลให้ความต้องการและราคาของนิกเกิลลดลง
ข้อมูลจากเทรดิงอีโคโนมิกส์ (TradingEconomics) ระบุว่า ราคาของนิกเกิลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดลงจากระดับสูงสุดที่ 48,199 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 เหลือ 15,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.)
วินาร์โนระบุว่า "เราจะเริ่มบริหารจัดการอุปทานของนิกเกิลในตลาดโลกซึ่งอิ่มตัวแล้ว เราจะจำกัดอุปทาน"
ด้านยูเลียต ตันจุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ ได้ย้ำถึงผลกระทบสำคัญที่อุปสงค์และอุปทานมีต่อราคานิกเกิล โดยเคยกล่าวเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ว่า "ราคาที่ลดลงเกี่ยวข้องกับอุปทานส่วนเกิน หากเรามองในภาคอุตสาหกรรม อุปทานส่วนเกินเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก"
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์ ซามูเอล อินโดนีเซีย (PT Samuel Sekuritas Indonesia) ชี้ให้เห็นถึงความต้องการที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นปัจจัยที่น่าจะกดดันราคานิกเกิลต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้
ธนาคารโลกได้แสดงความคิดเห็นในทางเดียวกันว่า ราคานิกเกิลที่ลดลงในไตรมาส 3/2567 ส่วนใหญ่เกิดจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความต้องการที่ลดลงจากตลาดสเตนเลสสตีลและแบตเตอรี่
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นิกเกิลเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ของอินโดนีเซีย โดยรัฐบาลอินโดนีเซียได้พัฒนาภาคส่วนดังกล่าว ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญและสร้างงานได้หลายพันตำแหน่ง
ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีแร่นิกเกิลสำรองอยู่ราว 72 ล้านตัน หรือคิดเป็น 52% จากทั้งโลก ตามข้อมูลปี 2563 ของกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ธาตุ