เทสลา (Tesla) ค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ รายงานในวันนี้ (3 ม.ค.) ว่า ยอดขายในจีนพุ่งขึ้น 8.8% ทำสถิติใหม่ที่ 657,000 คันในปี 2567 สวนทางกับยอดส่งมอบรถเทสลาทั่วโลกที่หดตัวเป็นครั้งแรก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตามข้อมูลของเทสลาประจำประเทศจีน ยอดขายเทสลาในตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ยังพุ่งขึ้น 12.8% ในเดือนธ.ค. ทำสถิติใหม่ที่ 83,000 คัน
ในปี 2567 เทสลาส่งมอบรถ 36.7% ให้ลูกค้าในจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ยอดส่งมอบรถเทสลาทั่วโลกกลับลดลง 1.1% ต่ำกว่าที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาเคยคาดว่าจะเติบโตเล็กน้อย โดยเป็นผลจากการตัดเงินอุดหนุนในยุโรป กระแสรถไฮบริดราคาถูกในสหรัฐฯ และการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะจากบีวายดี (BYD) ของจีน
ด้วยยอดขายทั่วโลกรวมทั้งปีที่ 1.79 ล้านคัน เทสลายังคงนำหน้าบีวายดีอยู่เล็กน้อย โดยบีวายดีมียอดขายรถ EV โต 12.1% เป็น 1.76 ล้านคันทั่วโลก
ทั้งนี้ เทสลาได้ปลดพนักงานทั่วโลกในปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการซื้อซบเซาและเผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งจีน รวมถึงลดขนาดทีมฝ่ายขายในจีนลงด้วย
ขณะที่สงครามราคารถ EV ในจีนก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 เทสลาได้ขยายโปรโมชั่นส่วนลด 10,000 หยวน (1,369.99 ดอลลาร์) สำหรับสินเชื่อคงค้างในการซื้อรถรุ่น Model Y ยอดนิยม พร้อมข้อเสนอดอกเบี้ย 0% นานถึง 5 ปีสำหรับรถ Model 3 และ Model Y บางรุ่นจนถึงสิ้นเดือนนี้