บริษัทยูเอส สตีล (U.S. Steel) และนิปปอน สตีล (Nippon Steel) ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลเมื่อวันจันทร์ (6 ม.ค.) โดยกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ขัดขวางข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล มูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ของนิปปอน สตีล อย่างผิดกฎหมายผ่านการทบทวนด้านความมั่นคงแห่งชาติที่จัดฉากขึ้น
บริษัททั้งสองต้องการให้ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางยกเลิกการตัดสินใจของไบเดนที่ขัดขวางข้อตกลง เพื่อให้ทั้งสองบริษัทได้รับการอนุมัติอีกครั้งผ่านการทบทวนด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหม่โดยไม่มีอิทธิพลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
คำฟ้องระบุว่า ปธน.ไบเดนมีอคติในการตัดสินใจของคณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐฯ (CFIUS) ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิของบริษัทในการได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม
บริษัททั้งสองกล่าวหาว่า ไบเดนพยายามล้มดีลควบรวมกิจการ "เพื่อหวังชนะการเลือกตั้งอีกสมัย โดยเอาใจผู้นำ USW (สหภาพแรงงานเหล็กกล้า) ในรัฐเพนซิลเวเนีย"
"อิทธิพลที่ไม่เหมาะสมของประธานาธิบดีไบเดน ทำให้คณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐฯ ล้มเหลวในการดำเนินการทบทวนด้านกฎระเบียบที่เน้นความมั่นคงแห่งชาติโดยสุจริต" แถลงการณ์ระบุ
ด้านโฆษกทำเนียบขาวออกมาปกป้องกระบวนการทบทวน โดยกล่าวว่า "ประธานาธิบดีไบเดนจะไม่ลังเลที่จะปกป้องความมั่นคงของประเทศ โครงสร้างพื้นฐาน และความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน"
ทาคาฮิโระ โมริ รองประธานนิปปอน สตีล กล่าวว่า "เราจะไม่ยอมถอย หลังจากถูกปฏิบัติอย่างไม่สมเหตุสมผล เราจะต่อสู้กลับอย่างเต็มที่" พร้อมเสริมว่า กระบวนการทบทวนของ CFIUS ขาดความโปร่งใส เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับข้อเสนอแนะเป็นลายลักษณ์อักษรใด ๆ เกี่ยวกับข้อตกลงด้านความมั่นคงที่เสนอไป
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเองเมื่อวานนี้โดยตั้งคำถามว่า "ทำไมพวกเขาถึงอยากขายยูเอส สตีล ในตอนนี้ ในเมื่อการเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้บริษัทมีผลกำไรและมูลค่าเพิ่มขึ้น"
ด้านเออิจิ ฮาชิโมโตะ ซีอีโอของนิปปอน สตีลกล่าวในกรุงโตเกียวในวันนี้ (7 ม.ค.) ว่า การร่วมมือกับยูเอส สตีลนั้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของทรัมป์ที่ต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และหากบริษัทชนะคดีความ และ CFIUS เปิดการพิจารณาอีกครั้ง ก็พร้อมจะชี้แจงถึงประโยชน์ที่สหรัฐฯ จะได้รับจากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจในข้อตกลงนี้
นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังได้ยื่นฟ้องร้องบริษัทคลีฟแลนด์-คลิฟส์ (Cleveland-Cliffs), ลูเรนโซ กอนคาลเวส ซีอีโอของบริษัทดังกล่าว และเดวิด แมคคอล ประธานสหภาพ USW โดยกล่าวหาว่า "สมคบกันขัดขวางข้อตกลง" เพื่อให้คลิฟส์สามารถ "ผูกขาดตลาดเหล็กกล้าในประเทศ"
กอนคาลเวสถูกกล่าวหาว่า ได้โทรศัพท์อย่างน้อย 9 ครั้งเพื่อรับรองกับนักลงทุนว่าไบเดนจะล้มดีลดังกล่าว ขณะที่กอนคาลเวสออกมาตอบโต้ว่า "นิปปอน สตีล และยูเอส สตีล ยังคงโยนความผิดให้ผู้อื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความล้มเหลวของตนเอง"
ด้านแมคคอลกล่าวว่า USW จะ "ต่อสู้กับการกล่าวหาที่ไร้สาระเหล่านี้อย่างเต็มที่"