กูรูคาดตลาดหุ้นอินเดียได้ประโยชน์มากสุดในยุค "ทรัมป์ 2.0"

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 8, 2025 14:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คุนาล เดไซ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอจากบริษัทจีไอบี แอสเสท แมเนจเมนท์ (GIB Asset Management) กล่าวว่า นักลงทุนที่มองหาบริษัทที่มีศักยภาพในการเป็น "บริษัทขนาดใหญ่และมั่นคงแห่งอนาคต" ควรมองไปที่บริษัทอินเดีย

เดไซกล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า บรรดานักลงทุนกำลังประเมินความสามารถของอินเดียในการชิงความได้เปรียบจากสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งเขามองว่าตำแหน่งทางภูมิรัฐศาสตร์ของอินเดียนั้นเอื้อประโยชน์ในยุคทรัมป์ 2.0

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในระดับสูงเมื่อเขาเมื่อเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายกล่าวว่าการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนนั้นจะเป็นประโยชน์ต่ออินเดีย เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ จะพากันย้ายฐานการผลิตไปยังอินเดียเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

เดไซกล่าวถึงอินเดียว่า เป็น "หนึ่งในโอกาสการลงทุนที่น่าดึงดูด มีพื้นฐานรองรับการเติบโต และสามารถขยายตัวได้มากที่สุดในระดับโลก" โดยนอกจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์แล้ว เดไซยังระบุถึงเหตุผลอื่น ๆ ที่ควรลงทุนในอินเดีย ซึ่งรวมถึงอธิปไตยทางการเงินของประเทศ ผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และการลงทุนของภาคเอกชนที่ปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ บรรดานักวิเคราะห์ยังได้กล่าวถึงนโยบาย "Make in India" ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับบริษัทผู้ผลิตบางรายในอินเดีย

สำหรับเดไซแล้ว "หนึ่งในภาคส่วนที่น่าดึงดูดใจมากที่สุดคืออุตสาหกรรมสายเคเบิล สายไฟฟ้า และสายไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความเป็นเมืองและโครงการโครงสร้างพื้นฐานในอินเดีย" โดยเขากล่าวว่า ธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้มองอินเดียเป็นเพียง "ตลาดหลัก" เท่านั้น แต่ยังมองหาโอกาสในการขยายตัวและเริ่มส่งออกด้วย

"และเมื่อพิจารณาถึงความยากลำบากที่บริษัทจีนกำลังเผชิญในแง่ของการส่งออกแล้ว บริษัทอินเดียจำนวนมากกำลังคว้าโอกาสในช่วงเวลาที่ลูกค้ามองหาลู่ทางที่จะได้แหล่งผลิตสองแห่งสำหรับห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา" เดไซกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ