ปอร์เช่ (Porsche) บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมนี เปิดเผยในวันนี้ (13 ม.ค.) ว่า ยอดขายในจีนลดลง 28% ในปี 2567 เนื่องจากภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่องของจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปอร์เช่ ซึ่งมีโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สามารถจำหน่ายรถยนต์ได้ 56,887 คันในจีนในปี 2567 เมื่อเทียบกับ 79,283 คันในปี 2566
ยอดขายในจีนที่ลดลงส่งผลให้ยอดขายทั่วโลกของปอร์เช่ลดลง 3% มาอยู่ที่ 310,718 คัน เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้ตลาดอื่น ๆ จะเติบโต รวมถึงตลาดเยอรมนีที่ยอดขายโต 11%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้บริโภคชาวจีนมีความลังเลในการใช้จ่ายเงินไปกับสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้น ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก อันเป็นผลมาจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ
เดทเลฟ วอน พลาเทน สมาชิกคณะกรรมการบริหารของปอร์เช่ กล่าวในแถลงการณ์ว่า "โดยรวมแล้ว เราได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวดในสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ท้าทายในปี 2567"
ทั้งนี้ ปอร์เช่กล่าวในเดือนต.ค.ว่า บริษัทจะลดขนาดเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง