ทีมเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีอย่างช้า ๆ แบบเดือนต่อเดือน ซึ่งการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มอำนาจในการเจรจาต่อรอง ขณะเดียวกันก็จะช่วยหลีกเลี่ยงการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า แนวคิดหนึ่งที่ทีมเศรษฐกิจของทรัมป์หารือกันนั้นเกี่ยวข้องกับกำหนดเวลาการปรับขึ้นภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 2% ถึง 5% ต่อเดือน และจะขึ้นอยู่กับคำสั่งประธานาธิบดีตามกฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หรือ IEEPA (International Economic Emergency Powers Act)
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ข้อเสนอนี้อยู่ในขั้นเริ่มต้นและยังไม่ได้นำเสนอต่อทรัมป์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าแนวทางการทยอยปรับขึ้นภาษีรายเดือนยังอยู่ในช่วงต้นของกระบวนการพิจารณา โดยที่ปรึกษาที่ร่วมทำงานในแผนการดังกล่าวนี้ รวมถึง สก็อตต์ เบสเซนต์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีคลัง เควิน แฮสเซ็ตต์ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ และสตีเฟน มิแรน ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เบสเซนต์ แฮสเซ็ตต์ และมิแรน ต่างก็ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว
ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2567 นั้น ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีขั้นต่ำสำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภทในอัตรา 10% - 20% และจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 60%