หุ้นรถยนต์-แบตเตอรี่ในเอเชียร่วง หลัง "ทรัมป์" ขู่รีดภาษีเม็กซิโก-แคนาดา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 21, 2025 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นและหุ้นบริษัทผลิตแบตเตอรี่ของเกาหลีใต้ ร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในเดือนหน้า และยกเลิกคำสั่งของคณะบริหารชุดก่อนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ในวันที่ 1 ก.พ. โดยทรัมป์เปิดเผยแผนการดังกล่าวหลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ในประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ อย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์เหล่านี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถ EV และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของคู่แข่งจากจีน

ทั้งนี้ หุ้นนิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ปรับตัวลง 0.3% โดยนิสสันมีโรงงาน 2 แห่งในเม็กซิโก ซึ่งผลิตรถรุ่น Sentra, Versa และ Kicks ป้อนให้กับตลาดสหรัฐฯ นอกจากนี้ นิสสันยังส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ จำนวน 300,000 คันต่อปี

ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) ส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ในสัดส่วนสูงถึง 80% ของยอดการผลิตโดยรวมในเม็กซิโก โดยชินจิ เอโอยามะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของฮอนด้า ได้เตือนเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาว่า ฮอนด้าอาจต้องคิดเรื่องการย้ายฐานการผลิตหากสหรัฐฯ ใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์แบบถาวร

หุ้นบริษัทผลิตแบตเตอรี่ของเกาหลีใต้ร่วงลง โดยหุ้นแอลจี เอนเนอร์จี โซลูชัน (LG Energy Solution) ร่วงลง 5% ขณะที่หุ้นซัมซุง เอสดีไอ (Samsung SDI) และหุ้นเอสเค อินโนเวชัน (SK Innovation) ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 4%

นอกจากนี้ ทรัมป์ได้เพิกถอนคำสั่งบริหารปี 2564 ที่ลงนามโดยโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดี ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้รถยนต์ใหม่จำนวน 50% จากทั้งหมดที่จำหน่ายในปี 2573 นั้นต้องเป็น EV ขณะเดียวกันทรัมป์ยังมีแผนที่จะสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ทำการทบทวนใหม่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่กำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งกฎเกณฑ์ดังกล่าวกำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องจำหน่ายรถ EV จำนวน 30-56% ภายในปี 2575


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ