ยอดขายไอโฟน (iPhone) ของแอปเปิ้ล (Apple) ในประเทศจีนดิ่งลง 18.2% ในไตรมาสเดือนธ.ค. ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลงครั้งใหญ่ในตลาดจีน ซึ่งใหญ่ที่สุดรองจากสหรัฐฯ
เคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช (Counterpoint Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระบุว่า สมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงของแอปเปิ้ลซึ่งเป็นสินค้าขายดีที่สุดในจีนในปีก่อนหน้า ได้เสียตำแหน่งอันดับหนึ่งให้กับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ (Huawei Technologies) และร่วงลงมาสู่อันดับ 3 ของกลุ่มบริษัทสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1 ใน 6 ของทั้งหมด และยอดขายที่ลดลงในจีนทำให้ยอดขายไอโฟนทั่วโลกลดลง 5% ในช่วงเทศกาลชอปปิงที่สำคัญด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดขายที่ลดลงตอกย้ำถึงการเปิดตัวที่ไม่ราบรื่นของไอโฟนรุ่นล่าสุด ซึ่งเริ่มต้นด้วยการมียอดขายที่พุ่งแรงในจีนก่อนจะค่อย ๆ แผ่วลง แม้ว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ของแอปเปิ้ลสร้างความโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ฟีเจอร์เหล่านั้นยังคงไม่สามารถเข้าถึงได้ในจีน ขณะที่ Apple กำลังมองหาพันธมิตรในจีนเพื่อจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI บนโทรศัพท์และบนคลาวด์ ซึ่งแอปเปิ้ลกำลังเจรจากับบริษัทต่าง ๆ ตั้งแต่ไป่ตู้ (Baidu Inc.) และเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ (Tencent Holdings Ltd.) ไปจนถึงสตาร์ตอัปอย่าง จื้อผู่ เอไอ (Zhipu AI) แต่ยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ เกิดขึ้น
"นี่เป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยหวนคืนสู่ตำแหน่งผู้นำอีกครั้งนับตั้งแต่ถูกสหรัฐฯ สั่งแบน โดยยอดขายของหัวเว่ยเพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบรายปีจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนระดับมิดเอนด์ (mid-end) รุ่นโนวา 13 (Nova 13) และสมาร์ตโฟนไฮเอนด์ (high-end) รุ่นเมต 70 (Mate 70)"