ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (22 ม.ค.) หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีท่าทีที่แข็งกร้าวน้อยกว่าคาดเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีศุลกากร
นักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางมาเลเซียในวันนี้ โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3%
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) ว่า เขากำลังพิจารณาจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งอาจเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "เรากำลังพูดถึงการเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 10% เนื่องจากจีนส่งเฟนทานิลไปยังเม็กซิโกและแคนาดา" โดยทรัมป์ระบุถึงยาดังกล่าวที่ถูกขนส่งข้ามพรมแดนสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดภายในประเทศ
-- ติง เสวี่ยเซียง รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวเตือนเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) ว่า การทำสงครามการค้าจะสิ้นสุดลงโดยไม่มีผู้ใดได้รับชัยชนะ
ติงกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สนทนากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) โดยผู้นำรัสเซียเสนอการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับจีน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์
ปธน.ปูตินได้ทักทายปธน.สีผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยได้โบกมือและเรียกปธน.สีว่าเป็น "เพื่อนรัก" และกล่าวว่า เขาต้องการพัฒนาการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุมระหว่างรัสเซียและจีน
-- หนังสือพิมพ์ The Jerusalem Post ของอิสราเอลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลหลายรายเตรียมยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของกองทัพอิสราเอลในการป้องกันการโจมตีของกลุ่มฮามาสในวันที่ 7 ต.ค.2566 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 ราย และถูกจับเป็นตัวประกันราว 250 ราย
แหล่งข่าวระบุว่า ผู้บัญชาการกองทัพอากาศและกองทัพเรือของอิสราเอลเตรียมประกาศลาออกจากตำแหน่ง ตามพลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอล ซึ่งประกาศลาออกเมื่อวานนี้ (21 ม.ค.)
-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 4/2567
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งต่อไปในวันที่ 28 ม.ค.
-- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ 10.3 ในเดือนม.ค. จากระดับ 15.7 ในเดือนธ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 15.3
ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค และอุปสงค์ที่ซบเซาในภาคก่อสร้าง รวมทั้งความไร้เสถียรภาพทางการเมือง
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (22 ม.ค.) ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. และสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board