คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้สั่งการให้กองทุนรวมและบริษัทประกันของจีนเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งถือเป็นมาตรการครั้งล่าสุดของรัฐบาลจีนในการพยุงตลาดหุ้นที่กำลังอ่อนแอ
อู๋ ชิง ประธาน CSRC กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ (23 ม.ค.) ว่า กองทุนรวมจะต้องเพิ่มการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นจีนอีกอย่างน้อย 10% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า ขณะที่บริษัทประกันขนาดใหญ่ของรัฐบาลจะต้องลงทุนในสัดส่วน 30% ของเบี้ยประกันใหม่ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี CSI 300 Index พุ่งขึ้น 1.8% หลังการแถลงข่าวของประธาน CSRC ขณะที่ดัชนีหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ดีดตัวขึ้น 0.8%
"นโยบายดังกล่าวเอื้อประโยชน์ต่อตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นรัฐวิสาหกิจซึ่งให้ผลตอบแทนสูง" เจสัน ชาน นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสจากแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย (Bank of East Asia) กล่าว และเสริมว่า "การกำหนดให้ธุรกิจประกันต้องลงทุนในตลาดหุ้นในสัดส่วน 30% ของเบี้ยประกันภัยใหม่นับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เพราะโดยปกติแล้วพอร์ตการลงทุนของบริษัทประกันจะลงทุนในหุ้นเพียง 15% - 20% เท่านั้น"
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ตลาดหุ้นจีนถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเป็นเวลานาน และจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
ส่วนเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ทางการจีนได้เปิดเผยมาตรการต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด ซึ่งรวมถึงแผนการผลักดันให้กองทุนบำนาญเข้าไปลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้มากขึ้น