ฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เล็งครองส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์ครึ่งหนึ่งของโลก ในขณะที่ยอดขายรถจักรยานยนต์ทั้งแบบน้ำมันและไฟฟ้าทั่วทั้งอุตสาหกรรม มีแนวโน้มว่าจะพุ่งแตะ 60 ล้านคันต่อปีภายในปี 2573
ฮอนด้าเปิดเผยระหว่างการแถลงข่าววันนี้ (28 ม.ค.) ว่า ยอดขายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 20.2 ล้านคัน ภายในปีงบการเงินนี้ที่จะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. ซึ่งจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งประมาณ 40%
ฮอนด้าหวังว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาด 50% ได้ในท้ายที่สุด รวมถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าด้วย โดยการเติบโตจะมาจากภูมิภาคโลกใต้ (Global South) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมถึงบราซิลและประเทศอื่น ๆ ในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าไม่ได้ระบุกรอบเวลาสำหรับเป้าหมายดังกล่าวแต่อย่างใด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธุรกิจรถจักรยานยนต์ของฮอนด้ามีกำไรจากการดำเนินงานราว 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 12 เดือน ซึ่งสิ้นสุดลงวันที่ 31 มีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นเกือบ 14% จาก 5 ปีก่อน ปัจจุบันฮอนด้าผลิตรถจักรยานยนต์ได้มากกว่า 20 ล้านคันต่อปีในโรงงาน 37 แห่งทั่วโลกใน 23 ประเทศและเขตพื้นที่ต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าอาจประสบปัญหาเรื่องภาษีศุลกากร เนื่องจากบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ราว 9,000 คันต่อปีที่โรงงานในเม็กซิโก ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามายังสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกผ่านพรมแดนเม็กซิโกในอัตราที่สูง
มิโนรุ คาโตะ เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรถจักรยานยนต์ของฮอนด้า กล่าวว่า "แน่นอนว่าจะมีผลกระทบ ... เรากำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิต ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้น"