สำนักข่าวเอ็นเอชเค (NHK) ของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวานนี้ว่า ตระกูลผู้ก่อตั้งเซเว่น แอนด์ ไอ (Seven & i) ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (Seven-Eleven) จากญี่ปุ่น กำลังเจรจาชวนกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี (CP) ร่วมลงทุนซื้อกิจการ โดยตระกูลผู้ก่อตั้งกำลังหาทางถอนหุ้นออกจากตลาดผ่านการซื้อกิจการโดยผู้บริหาร (Management Buyout)
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาหาผู้ลงทุนซื้อกิจการเพื่อทำให้เซเว่น แอนด์ ไอ กลับมาเป็นบริษัทเอกชน เพื่อสกัดการเข้าซื้อกิจการมูลค่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) จากบริษัทอาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ (Alimentation Couche-Tard) ของแคนาดา
รายงานข่าวระบุว่า เครือซีพีเป็นรายล่าสุดที่ได้รับการทาบทามเพื่อสนับสนุนความพยายามในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งประเมินมูลค่าของกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อนี้ไว้ที่ราว 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และหากสำเร็จจะกลายเป็นการซื้อกิจการคืนโดยผู้บริหารที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนที่เสนอให้เครือซีพีอาจสูงถึงหลายแสนล้านเยน โดยตัวเลขที่แน่นอนยังอยู่ระหว่างการเจรจา
ก่อนหน้านี้ ตระกูลผู้ก่อตั้งเซเว่น แอนด์ ไอ ได้ทาบทามบริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างอีโตชู (Itochu) และยักษ์ใหญ่ด้านไพรเวทอิควิตี้จากสหรัฐฯ อย่างอพอลโล โกลบอล แมเนจเมนท์ (Apollo Global Management) ให้ร่วมสนับสนุนเงินทุน
หากดีลนี้เกิดขึ้น จะทำให้ทีมผู้บริหารปัจจุบันของเซเว่น แอนด์ ไอ ยังคงอยู่ในตำแหน่ง และช่วยลดแรงกดดันในการขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไร แม้นักวิเคราะห์บางรายมองว่าอาจเป็นกลยุทธ์ให้อาลีมองตาซิยง คูช-ตาร์ ยื่นข้อเสนอในวงเงินที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นกดดันให้เซเว่น แอนด์ ไอ ขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ซึ่งมีตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าเฉพาะทาง และแฟรนไชส์ร้านอาหาร
ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม บริษัทฯ ประกาศจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งที่จะดูแลบริษัทในเครือ 31 แห่ง ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวก่อนหน้านี้ว่า กลุ่มบริษัทไพรเวทอิควิตี้ นำโดยเคเคอาร์ (KKR) และเบน แคปิตอล (Bain Capital) ได้ยื่นประมูลสินทรัพย์นอกธุรกิจหลักของเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ มูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์