ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกโรงเตือนไปยังประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS อีกครั้งว่า อย่าคิดเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินอื่นแทนดอลลาร์สหรัฐ ถ้าไม่อยากถูกเก็บภาษีนำเข้า 100%
"เรากำลังจะขอคำมั่นจากประเทศที่ดูเหมือนจะตั้งตัวเป็นศัตรูเหล่านี้ว่า พวกเขาจะไม่สร้างสกุลเงินใหม่ของ BRICS หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใดเพื่อแทนที่ดอลลาร์สหรัฐ มิฉะนั้นพวกเขาจะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากร 100%" ทรัมป์ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนทรูธ โซเชียล วานนี้ (30 ม.ค.) ซึ่งเกือบจะเหมือนกับที่เขาเคยโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 30 พ.ย.
ทั้งนี้ ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี BRICS ครั้งแรกหลังชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เพียงไม่นาน ซึ่งในเวลานั้น รัสเซียได้ออกมาตอบโต้ โดยกล่าวว่าความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะบังคับให้ประเทศต่าง ๆ ใช้ดอลลาร์จะส่งผลเสียย้อนกลับไปที่สหรัฐฯ เอง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่ม BRICS ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ก่อนที่จะเปิดรับอียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าเป็นสมาชิกเพิ่มในปี 2566 และอินโดนีเซียเป็นสมาชิกรายล่าสุดเมื่อต้นเดือนม.ค. นี้ ปัจจุบันกลุ่ม BRICS ยังไม่มีสกุลเงินร่วม แต่บรรดาประเทศสมาชิกได้หารือในประเด็นนี้กันมานานแล้วและเริ่มชัดขึ้นในระยะหลัง หลังจากที่ชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากกรณีรุกรานยูเครน
"ไม่มีทางที่ BRICS จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศ หรืออะไรก็ตาม และประเทศที่พยายามทำเช่นนั้น เตรียมเจอภาษีศุลกากร และบอกลาอเมริกาได้เลย!" ทรัมป์กล่าว
อิทธิพลของเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นในช่วงหลังมานี้ เนื่องจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยผลการศึกษาของศูนย์ภูมิเศรษฐศาสตร์แห่งสภาแอตแลนติกเมื่อปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่า ดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก ซึ่งทั้งยูโรและ BRICS ไม่สามารถลดการพึ่งพาดอลลาร์ในระดับโลก