ผู้ว่าฯธปท.เตือนศก.ไทยปีนี้อาจโตต่ำกว่า 2.9% แม้รบ.แจกเงิน, ลังเลใช้คริปโทฯ เหตุมูลค่าไม่มั่นคง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 31, 2025 13:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ว่า เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตต่ำกว่า 2.9% ในปีนี้ เนื่องจากการบริโภคอ่อนแอ แม้รัฐบาลแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาก็ตาม

ก่อนหน้านี้ ธปท.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 2.9% ซึ่งต่ำกว่าที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ที่ 3% อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐพุฒิกล่าวกับรอยเตอร์ว่า มีความเสี่ยงที่ตัวเลขจริงจะต่ำกว่านั้น และมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 อาจขยายตัวใกล้เคียง 2.7% โดยการเติบโตในไตรมาสสุดท้ายน่าจะต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ สาเหตุสำคัญมาจากการอุปโภคบริโภคที่อ่อนแอกว่าคาดการณ์

"มาตรการแจกเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลน้อยกว่าที่เราคาดการณ์ไว้" ผู้ว่าแบงก์ชาติกล่าว พร้อมระบุด้วยว่า เงินที่แจกไปนั้น บางครั้งถูกนำไปชำระหนี้ จึงไม่ได้กระตุ้นการบริโภคอย่างที่ตั้งใจ

รอยเตอร์ระบุว่า นับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่ผู้ว่าแบงก์ชาติแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลสัมฤทธิ์ของนโยบายแจกเงินมูลค่า 5 แสนล้านบาทของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน นายเศรษฐพุฒิยังกล่าวถึงจุดยืนด้านนโยบายการเงินของธปท.ว่ายังคงเป็นกลางในภาพรวม โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.1% ในปีนี้ ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังคงกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของค่าเงินบาท แม้จะไม่ได้กำหนดระดับค่าเงินที่เหมาะสมไว้ก็ตาม

นายเศรษฐพุฒิกล่าวว่า เมื่อมองในภาพรวมแล้ว ธปท.เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และสามารถรักษาสมดุลของปัจจัยต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ธปท.ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยน

ทั้งนี้ เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ธปท.คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% หลังจากมีมติปรับลดดอกเบี้ยแบบเหนือความคาดหมายในเดือนต.ค. โดยการประชุมกนง.ครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 26 ก.พ.นี้

ผู้ว่าแบงก์ชาติกล่าวด้วยว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยซึ่งอยู่ในระดับสูงถึงราว 2.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ กลางเดือนม.ค.นั้น เป็นปัจจัยหนุนที่สร้าง "ความเข้มแข็งและมั่นคง" ในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง โดยผู้ว่าแบงก์ชาติ ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งห้าปีในเดือนก.ย.นี้ กล่าวว่า การที่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างไร

นอกจากนี้ นายเศรษฐพุฒิย้ำว่า ธปท.ยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี แม้รัฐบาลจะสนับสนุนให้ใช้เป็นระบบชำระเงินทางเลือก โดยมีแผนจะทดลองใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในพื้นที่นำร่องหรือ "แซนด์บ็อกซ์" ในจังหวัดภูเก็ต

เขากล่าวว่า สกุลเงินคริปโทฯ ไม่มีเสถียรภาพด้านมูลค่า อีกทั้งเทคโนโลยีที่รองรับยังไม่สามารถขยายสเกลได้มากนัก และอาจทำให้ระบบการชำระเงินกระจัดกระจาย โดยชี้ว่า ระบบพร้อมเพย์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันก็ทำงานได้ดีอยู่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ