นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า มาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหม่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน นั้น จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกไม่มากนักและจะเป็นผลกระทบในระยะสั้น
"มาตรการภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ บังคับใช้กับแคนาดานั้น อาจจะส่งผลให้การส่งออกก๊าซธรรมชาติจากแคนาดไปยังสหรัฐฯ ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจะไม่ส่งผลให้ราคาก๊าซในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" โกลด์แมน แซคส์ระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันและก๊าซปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ (3 ก.พ.) หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ก.พ.) โดยกำหนดให้เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 10% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานจากแคนาดาในอัตราเพียง 10% เพื่อลดผลกระทบต่อโรงกลั่นน้ำมันและรัฐแถบมิดเวสต์ที่พึ่งพาพลังงานจากแคนาดา ขณะที่ผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานจากเม็กซิโกถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25%
โกลด์แมนคาดการณ์ว่า การนำเข้าน้ำมันทางทะเลจากแคนาดาและเม็กซิโกจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังตลาดอื่น ขณะที่สหรัฐฯ จะทดแทนซัพพลายเหล่านั้นด้วยน้ำมันดิบจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก), ละตินอเมริกา และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากยุโรป
โกลด์แมนยังคงคาดการณ์ราคาน้ำมันสำหรับปี 2568/69 ไว้ที่ระดับเดิม โดยมองว่าผลกระทบต่อราคาจะมีเพียงเล็กน้อยในระยะสั้น เนื่องจากการผลิตและอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกยังคงมีเสถียรภาพ อีกทั้งนักลงทุนในตลาดได้ซึมซับผลกระทบจากภาษีน้ำมันแคนาดาไปแล้วก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โกลด์แมนได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์สำหรับปี 2568 สู่ระดับ 78 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 76 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาสำหรับปี 2569 เป็น 73 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 71 ดอลลาร์/บาร์เรล
รายงานยังระบุด้วยว่า ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะหารือกับผู้นำแคนาดาและเม็กซิโก หลังจากที่ทั้งสองประเทศประกาศว่าจะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าโอกาสที่เขาจะเปลี่ยนใจมีน้อยมาก