ศาลอุทธรณ์กรุงโซลพิพากษายกฟ้องเจย์ วาย ลี ประธานบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) ในข้อหาทุจริตทางบัญชีและปั่นหุ้นในวันนี้ (3 ก.พ.)
ศาลสูงกรุงโซลมีคำสั่งยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาในคดีควบรวมกิจการปี 2558 ที่อัยการระบุว่าออกแบบมาเพื่อให้ลีได้ครองอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือเครือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีแห่งนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คดีความที่ต่อเนื่องมานี้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของลี ขณะที่เขาถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงความสามารถในการบริหารซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำและสมาร์ตโฟนอันดับหนึ่งของโลก ในช่วงที่บริษัทกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและราคาหุ้นที่ไม่สดใส
"คดีนี้ใช้เวลายาวนานมาก เราหวังว่าหลังจากคำพิพากษาครั้งนี้ จำเลยจะได้กลับไปทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่" คิม ยูจิน ทนายความของลีกล่าวภายหลังการพิจารณาคดี
เป็นเวลาเกือบ 10 ปีที่ลีต้องเผชิญกับคดีความต่าง ๆ รวมถึงคดีการควบรวมกิจการที่เปิดทางให้เขาได้สืบทอดตำแหน่งต่อจากลี คุนฮี ผู้เป็นบิดา หลังจากที่บิดาประสบภาวะหัวใจวายในปี 2557
ปีที่แล้ว ศาลชั้นต้นได้ตัดสินยกฟ้องลีในทุกข้อหาที่เกี่ยวกับการควบรวมกิจการมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ระหว่างบริษัทในเครือซัมซุงสองแห่ง คือ ซัมซุง ซีแอนด์ที (Samsung C&T) และเชอิล อินดัสตรีส์ (Cheil Industries) เมื่อปี 2558
ต่อมา อัยการได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงกรุงโซล โดยขอให้ลงโทษจำคุก 5 ปี พร้อมอ้างคำพิพากษาอีกคดีหนึ่งเมื่อเดือนส.ค.ที่ระบุว่า ซัมซุง ไบโอโลจิกส์ (Samsung BioLogics) บริษัทในเครือเชอิล อินดัสตรีส์ กระทำผิดมาตรฐานบัญชีด้วยการแจ้งมูลค่าสินทรัพย์สูงเกินจริงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการควบรวมกิจการครั้งนี้
วันนี้ ลีเดินออกจากศาลท่ามกลางคำถามจากผู้สื่อข่าว แต่ลีไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ลียืนยันว่าตนบริสุทธิ์ โดยให้การในศาลเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาว่า "ผมไม่เคยมีเจตนาที่จะหลอกลวงหรือสร้างความเสียหายให้นักลงทุนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว"
ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ฝ่ายอัยการจะยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาต่อศาลฎีกาหรือไม่