ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวในวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่า เขาไม่รีบร้อนที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพื่อพยายามคลี่คลายสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่ทำเนียบขาวเผยก่อนหน้านี้ว่าการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสองจะมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้
"เราจะพูดคุยกับเขาในเวลาที่เหมาะสม ผมไม่รีบร้อน" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ไม่ถึงหนึ่งวันหลังจากที่มาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมีผลบังคับใช้
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่มาตรการภาษีของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ในวันอังคาร รัฐบาลจีนได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ซึ่งการที่มาตรการภาษีตอบโต้ของจีนยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันทีนั้นหมายความว่าทั้งสองประเทศยังมีเวลาทำข้อตกลง
"ไม่เป็นไร" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้ของจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การสนทนาระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับจีนถูกมองว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการผ่อนคลายหรือเลื่อนการเรียกเก็บภาษีออกไป เช่นเดียวกับการสนทนากับผู้นำเม็กซิโกและแคนาดาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การเลื่อนเก็บภาษีจากทั้งสองประเทศเพื่อนบ้านออกไปอีก 1 เดือน
อย่างไรก็ดี ความล่าช้าของการเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี เป็นสัญญาณว่าทั้งสองประเทศอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ยังขัดกับที่ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทำเนียบขาวของทรัมป์ เผยกับนักข่าวก่อนหน้านี้ว่า ผู้นำทั้งสองจะพูดคุยกันทางโทรศัพท์ในวันอังคาร "เรามารอดูกันว่าการพูดคุยจะเป็นอย่างไรในวันนี้" นาวาร์โรกล่าว
ด้านแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เธอไม่ได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับนัดหมายการพูดคุยทางโทรศัพท์ โดยก่อนหน้านั้น เธอเผยว่าการสนทนาระหว่างผู้นำทั้งสองจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้
ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ บางรายการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของปักกิ่งที่จะดึงทรัมป์เข้าร่วมการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หลิว เผิงหยู โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันกล่าวว่า จีนหวังว่า สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับปักกิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีเสถียรภาพ แข็งแรง และยั่งยืน