บริษัทอะเมซอน (Amazon) เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในไตรมาส 4/2567 แต่บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1/2568 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นอะเมซอนร่วงลง 5% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.พ.)
ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4 อยู่ที่ 1.86 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ 1.49 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 1.8779 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.8730 แสนล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services หรือ AWS) อยู่ที่ 2.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนรายได้จากการโฆษณาอยู่ที่ 1.73 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์
อะเมซอนคาดการณ์ว่า รายได้ไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 1.51 - 1.555 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.585 แสนล้านดอลลาร์
อะเมซอนระบุว่า การใช้จ่ายด้านทุน (CapEx) ในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 2.78 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนหน้านั้นซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์
ไบรอัน โอลซาฟสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (ซีเอฟโอ) ของอะเมซอนกล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเพิ่มการลงทุน CapEx สู่ระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 โดยการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้เกี่ยวข้องกับธุรกิจ AWS ซึ่งรวมถึงการรองรับความต้องการบริการ AI ของอะเมซอน ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนธุรกิจในอเมริกาเหนือและทั่วโลก
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งกำลังถูกกดดันจากนักลงทุนที่ต้องการพิสูจน์ว่าการใช้จ่ายด้าน AI จำนวนมากนั้นมีความคุ้มค่า โดยเฉพาะหลังจากการเปิดตัวโมเดล AI ของสตาร์ตอัปจีนอย่างดีปซีค (DeepSeek) โดยดีปซีคอ้างว่าใช้เวลาเพียง 2 เดือน และใช้เงินลงทุนไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ในการพัฒนาโมเดล AI ซึ่งบริษัทระบุว่าสามารถแข่งขันกับแชตบอตแชตจีพีที (ChatGPT) ของโอเพนเอไอ (OpenAI) ได้