เชฟรอน (Chevron) ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐฯ ประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 15-20% ภายในสิ้นปี 2569 เพื่อลดต้นทุน ปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจ และดำเนินการเข้าซื้อกิจการที่สำคัญให้เสร็จสิ้น
เชฟรอนเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะลดต้นทุนสูงสุด 3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2569 โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี การขายสินทรัพย์ และการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและสถานที่ปฏิบัติงาน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ณ สิ้นปี 2566 เชฟรอนมีพนักงานทั้งหมด 40,212 คน การเลิกจ้างพนักงาน 20% ของทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 คน อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวไม่รวมพนักงานของสถานีบริการเชฟรอนอีกประมาณ 5,400 คน
ทั้งนี้ เชฟรอนเผชิญความท้าทายด้านการผลิต ซึ่งรวมถึงต้นทุนที่บานปลาย และโครงการบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ในคาซัคสถานประสบกับความล่าช้า นอกจากนี้ ข้อตกลงเข้าซื้อกิจการบริษัทผู้ลิตน้ำมัน เฮสส์ (Hess) มูลค่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้เชฟรอนสามารถเข้าถึงบ่อน้ำมันที่ทำกำไรมหาศาลของกายอานาได้นั้น ก็ต้องหยุดชะงักลงในปัจจุบัน เนื่องจากการต่อสู้ในศาลกับบริษัทคู่แข่งที่ใหญ่กว่าอย่างเอ็กซอน โมบิล (Exxon Mobil)
นอกจากนี้ เชฟรอนยังเผชิญกับอัตรากำไรที่อ่อนแอในการผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยธุรกิจการกลั่นขาดทุนในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 และยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับไมค์ เวิร์ธ ซีอีโอของเชฟรอน
หุ้นของเชฟรอน ร่วงลง 1.3% ในการซื้อขายภาคบ่ายวานนี้