ยัง หลิว ประธานของฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของโลกจากไต้หวัน เปิดเผยว่า บริษัทฯ อาจพิจารณาซื้อหุ้นของนิสสันเพื่อความร่วมมือ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่อนาคตของนิสสันยังคงไม่แน่นอน หลังจากถอนตัวการเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้า (Honda)
ประธานฟ็อกซ์คอนน์กล่าวกับนักข่าวเมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ว่า "หากการร่วมมือกันจำเป็นต้องทำ (ซื้อหุ้นของนิสสัน) เราก็จะพิจารณา ... อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นไม่ใช่เป้าหมายของเรา เป้าหมายของเราคือความร่วมมือ" โดยความร่วมมือที่ว่านี้คือความร่วมมือกับเรโนลต์ (Renault) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของนิสสัน
ทั้งนี้ นิสสันได้ตัดสินใจยุติเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้า หลังจากที่ฮอนด้าได้เสนอแนวคิดให้นิสสันเป็นบริษัทในเครือ ซึ่งผิดไปจากแผนเดิมที่จะควบรวมแบรนด์ทั้งสองภายใต้บริษัทโฮลดิ้งที่จะจัดตั้งขึ้นในปี 2569 และส่งผลให้เกิดกระแสการคัดค้านอย่างรุนแรงภายในองค์กรของนิสสัน
ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า การควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้าและนิสสันจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถลดต้นทุนและแบ่งเบาภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกอย่างเทสลา (Tesla) และบีวายดี (BYD)
หลายฝ่ายคาดว่า นิสสันและฮอนด้าจะออกมาชี้แจงความเคลื่อนไหวล่าสุดในวันนี้ (13 ก.พ.) โดยมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองจะประกาศยกเลิกแผนการควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการ หลังจากการเจรจาระหว่างทั้งสองล้มเหลวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แหล่งข่าวเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ขณะนี้นิสสันเปิดกว้างที่จะร่วมงานกับพันธมิตรรายใหม่ ๆ รวมถึงบริษัทเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งรวมถึงกระแสนิยมรถยนต์ไฟฟ้า (EV), รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ และบรรดาผู้ผลิตจากจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทต่าง ๆ ที่นิสสันเปิดกว้างในการเจรจาด้วยนั้น รวมถึงบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ของไต้หวัน