หนังสือพิมพ์เมอิล บิสิเนส (Maeil Business) ของเกาหลีใต้รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้สั่งปรับสถาบันการเงินรายใหญ่อย่างเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase & Co), มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley), ยูบีเอส กรุ๊ป (UBS Group) และโนมูระ โฮลดิงส์ (Nomura Holdings) ในข้อหาละเมิดกฎหมายการห้ามขายชอร์ตหุ้น (short-selling)
หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวรายงานโดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ระบุชื่อว่า ทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าได้พบธนาคาร 14 แห่งที่ละเมิดกฎหมายการขายชอร์ตหุ้น หลังจากที่ได้ดำเนินการตรวจสอบในปี 2566
คณะกรรมการด้านบริการการเงินของเกาหลีใต้ (FSC) ได้จัดประชุมเมื่อวันพุธ (12 ก.พ.) เพื่อตัดสินใจในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินที่จะสั่งปรับ และไม่ได้ระบุว่า FSC มีแผนจะประกาศการตัดสินใจหรือไม่ ขณะที่โฆษก FSC ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น
ทั้งนี้ หากข่าวดังกล่าวได้รับการยืนยัน การดำเนินการของ FSC ก็ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการปราบปรามองค์กรที่ละเมิดกฎหมายการห้ามขายชอร์ต แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่เกาหลีใต้กำลังเตรียมนำเทคนิคการขายชอร์ตกลับมาใช้ใหม่ก็ตาม โดยการขายชอร์ตหุ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดมีความผันผวนมากเกินไป
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้บังคับใช้กฎหมายการห้ามขายชอร์ตหุ้นตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมธุรกรรมการซื้อขายที่บิดเบือนในระบบ โดยทางการเกาหลีใต้มุ่งเป้าไปที่การทำ naked short-selling ซึ่งเป็นธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ naked short-selling หมายถึงการขายชอร์ตหุ้นที่ยังไม่ได้มีการกู้ยืมหุ้นมาก่อนหรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ การขายชอร์ตหุ้นออกไปโดยที่นักลงทุนรายนั้นไม่ได้ถือหุ้นอยู่จริง ซึ่งถือเป็นข้อห้ามตามกฎหมายตลาดทุนของเกาหลีใต้
เจ้าหน้าที่ของมอร์แกน สแตนลีย์, เจพีมอร์แกน และยูบีเอส ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ขณะที่โฆษกของโนมูระกล่าวว่าบริษัทไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้