แอร์เมส (Hermes) บริษัทลักซ์ชัวรีสัญชาติฝรั่งเศส รายงานยอดขายไตรมาส 4/2567 พุ่ง 18% สวนทางภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรมสินค้าหรู สะท้อนกำลังซื้อที่แข็งแกร่งของลูกค้าระดับไฮเอนด์สำหรับสินค้าหรู เช่น กระเป๋า Birkin
แอ็กเซล ดูมาส์ ประธานบริหารของแอร์เมส กล่าวว่า "ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของเรา แม้จะเผชิญสภาวะตลาดที่ท้าทายขึ้น"
ยอดขายในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีอยู่ที่ 3.96 พันล้านยูโร (4.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 18% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากผลสำรวจของวิซิเบิล อัลฟา (Visible Alpha) คาดการณ์ที่ 10% โดยภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกาและญี่ปุ่น
แผนกเครื่องหนังและอานม้า ซึ่งสร้างรายได้เกือบครึ่งของบริษัท เติบโตสูงสุดที่ 21.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเติบโต 13%
ส่วนยอดขายในเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของแอร์เมส เพิ่มขึ้น 9% แม้จะมีสัญญาณการชะลอตัวในจีนตั้งแต่ปลายไตรมาสแรกของปี 2567 ขณะที่ยอดขายในภูมิภาคอเมริกาและญี่ปุ่นเติบโตเท่ากันที่ 22.3%
อย่างไรก็ดี ดูมาส์กล่าวย้ำว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าภาคอุตสาหกรรมกำลังฟื้นตัว แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณบวกบางอย่าง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอร์เมสยังคงเติบโตเหนือคู่แข่งอย่างแอลวีเอ็มเอช (LVMH) และเคอริง (Kering) บริษัทแม่ของแบรนด์หรูอย่างกุชชี่ (Gucci) ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีนและภาวะเงินเฟ้อที่บั่นทอนกำลังซื้อผู้บริโภค โดย LVMH มียอดขายเติบโตเพียง 1% ในช่วงเวลาเดียวกัน สอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมสินค้าหรูทั่วโลกที่หดตัวราว 2% ในปีที่ผ่านมา
แอร์เมสยังคงควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด โดยเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 6-7% ต่อปี เพื่อรักษาภาพลักษณ์ความหรูหราและความต้องการที่สูงกว่าปริมาณการผลิต ส่วนด้านราคาสินค้า บริษัทเตรียมปรับขึ้น 6-7% ในปีนี้ เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตและอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้น
"เราจะปรับตามอัตราภาษีนำเข้า และปรับราคาตามความเหมาะสม" ดูมาส์กล่าวทิ้งท้าย