ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มเปิดในแดนลบในวันนี้ (24 ก.พ.) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงกว่า 700 จุดในวันศุกร์ (21 ก.พ.) โดยตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและอุปสงค์ที่อ่อนแอของผู้บริโภค และนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการกำหนดภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ ด้วย
-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลประกอบการของอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ
ณ เวลา 07.27 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น 130 จุด หรือ +0.30% แตะที่ระดับ 43,616 จุด
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทโฮมดีโปท (Home Depot) ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วน Nvidia จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธ (26 ก.พ.) โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลจาก Nvidia อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่า Nvidia ยังคงรักษาสถานะการเป็นบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุดได้หรือไม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึง ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2567, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนม.ค. และ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.
-- ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิตโพล (Exit Poll) บ่งชี้ว่า พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU)/พรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (Bundestag) ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.)
เอ็กซิตโพลซึ่งจัดทำโดยสถานีโทรทัศน์เออาร์ดี (ARD) ของเยอรมนีระบุว่า พรรค CDU/CSU ได้คะแนนเสียง 28.5% ตามด้วยพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ได้ไป 20.6% และพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) ได้ไป 16.5%
ส่วนพรรคกรีน (Greens) ได้คะแนน 11.8% ขณะที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (FDP) ได้คะแนนเพียง 4.4%
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.) เพื่อสั่งการให้คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) จำกัดการลงทุนของจีนในภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า บันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศพร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จากภัยคุกคามจากปรปักษ์ต่างชาติอย่างเช่นจีน
คำสั่งดังกล่าวระบุว่า "จีนกำลังใช้ประโยชน์จากเงินทุนและความชาญฉลาดของเราเพื่อสนับสนุนและปรับปรุงปฏิบัติการทางทหาร ข่าวกรอง และความมั่นคง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ"
-- รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ส่งอีเมลถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในช่วงเย็นวันเสาร์ (22 ก.พ.) โดยระบุให้เจ้าหน้าที่รัฐแจกแจงผลงานของตนเองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และต้องตอบกลับอีเมลภายในคืนวันจันทร์ (24 ก.พ.) มิฉะนั้นอาจตกงาน
ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ ผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย X ว่า "ในไม่ช้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางทุกคนจะได้รับอีเมลเพื่อขอทราบว่าแต่ละคนได้ทำอะไรไปบ้างในสัปดาห์ที่แล้ว" และ "การไม่ตอบกลับอีเมลถือว่าเป็นการลาออก"
ก่อนมัสก์โพสต์ข้อความเพียงไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ผ่าน Truth Social ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียของเขาเองว่า DOGE ควรดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อลดขนาดและปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่มีจำนวน 2.3 ล้านคน
-- โอเพนเอไอ (OpenAI) ผู้สร้างแชตจีพีที (ChatGPT) ได้ทำการลบบัญชีผู้ใช้จากประเทศจีนและเกาหลีเหนือที่เชื่อว่ากำลังใช้เทคโนโลยีของบริษัทเพื่อจุดประสงค์ที่ไม่ดี รวมถึงการสอดแนมและการดำเนินการเพื่อชักจูงความคิดเห็น
OpenAI ระบุในรายงานว่า กิจกรรมเหล่านี้เป็นวิธีที่รัฐบาลเผด็จการอาจพยายามใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อต่อต้านสหรัฐฯ รวมถึงประชาชนของพวกเขาเอง พร้อมทั้งกล่าวว่า บริษัทได้ใช้เครื่องมือ AI ในการตรวจจับการดำเนินการเหล่านี้
ทั้งนี้ OpenAI ไม่ได้ระบุจำนวนบัญชีที่ถูกแบนหรือช่วงเวลาที่การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น
-- โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า แผนการเก็บภาษีนำเข้าน้ำมัน 10% ของสหรัฐฯ อาจทำให้ผู้ผลิตต่างชาติเสียค่าใช้จ่ายถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เนื่องจากน้ำมันดิบหนัก (heavy crude) จากแคนาดาและลาตินอเมริกายังคงพึ่งพาบริษัทกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ขณะที่มีผู้ซื้อและความสามารถในการแปรรูปที่จำกัด
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันนี้ (24 ก.พ.) ได้แก่ สิงคโปร์เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค., เยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ., อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนม.ค.จากเฟดชิคาโก และดัชนีการผลิตเดือนก.พ.จากเฟดสาขาดัลลัส