-- สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ในวันอังคาร (25 ก.พ.) ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสยังคงประชวรในขั้นวิกฤตด้วยพระอาการปอดบวมทั้งสองข้างเป็นวันที่ 4 แม้พระอาการจะทรงตัวและไม่มีภาวะแทรกซ้อนทางระบบหายใจเพิ่มเติม
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสังฝ่ายบริหารสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาความเป็นไปได้ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดง ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ในการใช้มาตรการกำแพงภาษีเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมของตน
-- ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ผู้นำเม็กซิโกกล่าวในวันอังคาร (25 ก.พ.) ว่า เธอคาดว่าข้อตกลงในสัปดาห์นี้จะช่วยป้องกันไม่ให้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากสินค้าส่งออกของเม็กซิโก
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เสนอแนวคิดเมื่อวันอังคาร (25 ก.พ.) ให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อ "โกลด์การ์ด" (gold card) มูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการได้สัญชาติอเมริกัน แทนที่โครงการวีซ่าสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
-- กระทรวงกลาโหมไต้หวันออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของจีนในวันนี้ (26 ก.พ.) ที่จัดตั้งพื้นที่ "ฝึกซ้อมยิง" ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันเพียง 40 ไมล์ทะเล (74 กิโลเมตร) โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า
-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในวันนี้ (26 ก.พ.) ว่า จีนไม่พอใจอย่างยิ่งและขอคัดค้านอย่างรุนแรงต่อมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดของแคนาดาซึ่งมุ่งเป้ามาที่บริษัทจีน
-- บริษัทจีนแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมตะวันออกของมณฑลซานตงได้ถอนคำสั่งที่ออกในเดือนก.พ. ซึ่งกำหนดให้พนักงานที่เป็นโสดต้องแต่งงานภายในเดือนก.ย.ปีนี้ หลังจากทางการท้องถิ่นระบุว่าคำสั่งดังกล่าวของบริษัทขัดต่อกฎหมายแรงงานของจีน
-- เว็บไซต์ดิ อินฟอร์เมชัน (The Information) รายงานเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram) และวอตส์แอป (WhatsApp) กำลังเจรจาโครงการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่แห่งใหม่ เพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมูลค่าการลงทุนอาจสูงกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันอังคาร (25 ก.พ.) ว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 รายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการระบาดของโรคปริศนา 2 กลุ่มที่อยู่ระหว่างการสอบสวนในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
-- หุ้นเทสลา (Tesla) ร่วงลง 8% ในวันอังคาร (25 ก.พ.) ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของเทสลาดิ่งลงต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 หลังยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของเทสลาในยุโรปทรุดหนักในเดือนม.ค.
-- ไฟดับครั้งใหญ่ทั่วชิลีทำให้กรุงซันติอาโก เมืองหลวงของประเทศ ตกสู่ความมืดมิดในวันอังคาร (25 ก.พ.) และเหมืองทองแดงสำคัญทางตอนเหนือของประเทศไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่งผลกระทบต่อตลาดโลหะทั่วโลก