ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่วานนี้ (26 ก.พ.) ว่าจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) ในอัตรา 25%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประกาศแผนภาษีศุลกากรครั้งล่าสุดของทรัมป์จุดชนวนความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้ากับ EU ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองและเศรษฐกิจทรงอิทธิพลซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศในยุโรป
ทรัมป์กล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาหวนคืนสู่ตำแหน่งปธน.ว่า "เราตัดสินใจแล้ว และเราจะประกาศเร็ว ๆ นี้" เขากล่าว "รวม ๆ แล้ว อัตราภาษีจะอยู่ที่ 25% ซึ่งจะเรียกเก็บจากรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ทั้งหมด"
ทรัมป์กล่าวย้ำเรื่องที่เขาไม่พอใจว่า EU มีข้อจำกัดทางการค้ามากมาย และไม่ยอมรับรถยนต์หรือสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ
"ถ้าให้พูดตรง ๆ สหภาพยุโรปก่อตั้งขึ้นเพื่อปั่นสหรัฐฯ นั่นคือจุดประสงค์ และพวกเขาทำได้ดีทีเดียว แต่ตอนนี้ผมเป็นปธน.แล้ว" ทรัมป์กล่าวโดยไม่ได้พูดถึงรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับแผนภาษีของเขาต่อ EU อีกทั้งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า แผนการดังกล่าวจะครอบคลุมสินค้านำเข้าทุกชนิดจาก EU หรือไม่
ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า EU เป็น "คนละกรณีกับแคนาดา" และกลุ่มประเทศนี้ "เอาเปรียบเราด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป"
ทั้งนี้ นับตั้งแต่หวนคืนสู่ตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ทรัมป์ได้ออกมาขู่รีดภาษีนำเข้าหลายระลอก ซึ่งรวมถึงการเรียกเก็บภาษีจากคู่ค้ารายใหญ่และพันธมิตรของตัวเอง ด้วยความเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยฟื้นการผลิตและสร้างงานในประเทศ