สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น กำลังวางแผนเปลี่ยนตัวประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) หลังผลประกอบการย่ำแย่และการเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) ล้มเหลว
แหล่งข่าวระบุว่า คณะกรรมการบริหารของนิสสันกำลังพิจารณาผู้สมัครที่เหมาะสม เพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจาก มาโกโตะ อูชิดะ ซึ่งทำงานกับบริษัทมานาน 22 ปี และดำรงตำแหน่งซีอีโอมาตั้งแต่ปลายปี 2562 อย่างไรก็ตาม นิสสันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ
อูชิดะ วัย 58 ปี ให้สัมภาษณ์เมื่อต้นเดือนนี้ว่า เขาพร้อมก้าวลงจากตำแหน่งหากได้รับการร้องขอ แต่อันที่จริงแล้วเขาไม่ต้องการสละตำแหน่งก่อนที่ธุรกิจของนิสสันจะกลับมาอยู่ในภาวะมั่นคง โดยเขาได้เตือนนักลงทุนให้เตรียมรับมือกับการขาดทุนสุทธิ 8 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 536 ล้านดอลลาร์) สำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุด ณ เดือนมี.ค. ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากตัวเลขคาดการณ์กำไรสุทธิ 3.8 แสนล้านเยนที่เขาประเมินไว้เมื่อ 9 เดือนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของฮอนด้าและนิสสันระบุว่า ทั้งสองบริษัทจะยังคงสานต่อความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทญี่ปุ่นอีกรายคือ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) เพื่อร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และซอฟต์แวร์ โดยอูชิดะกล่าวอย่างตรงไปตรงมาระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่า ความร่วมมือเป็นปัจจัยสำคัญต่ออนาคตของนิสสัน
"คงเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอดได้โดยไม่พึ่งพาความร่วมมือในอนาคต" อูชิดะกล่าวย้ำ
ทั้งนี้ นิสสันกำลังเผชิญความท้าทายในการดึงดูดผู้บริโภคด้วยยานยนต์ที่ล้าสมัย ทำให้ต้องทุ่มเงินมหาศาลไปกับมาตรการจูงใจและโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อระบายรถค้างสต็อก ขณะเดียวกัน อูชิดะได้ประกาศเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้วว่าจะปรับลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่ง และลดกำลังการผลิตของบริษัทลง 20%