ธนาคารกลางอินโดนีเซียให้คำมั่นว่าจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเชิงรุกในวันนี้ หลังจากค่าเงินรูเปียห์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากแคนาดาและเม็กซิโกตามกำหนดเดิมในสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รูเปียห์อ่อนค่าลง 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะที่ระดับ 16,568 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563
สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียต่างก็เผชิญกับแรงกดดันในด้านต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงนโยบายการค้าของปธน.ทรัมป์ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ปธน.ทรัมป์ยืนยันในวันพฤหัสบดี (27 ก.พ.) ว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตามกำหนดเดิมในวันที่ 4 มี.ค. และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.เช่นกัน
เอดดี ซูเซียนโต ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการเงินของธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า "เราจะเข้าแทรกแซงตลาดแบบเชิงรุก เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ในตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อที่นักลงทุนจะยังคงมีความเชื่อมั่นต่อตลาด"
ค่าเงินรูเปียห์ได้รับแรงกดดันในปีนี้ หลังจากธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนม.ค. โดยรูเปียห์ร่วงลงไปเกือบ 3% ในปีนี้ ซึ่งทำผลงานย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย