เดวิด โซโลมอน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า มีโอกาส "น้อยมาก" ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประเทศทั่วโลกก็ตาม
โซโลมอนกล่าวในการประชุมธุรกิจการเงินออสเตรเลีย (Australian Financial Review Business Summit) ที่นครซิดนีย์ในวันนี้ (4 มี.ค.) ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มองว่าการค้าของสหรัฐฯ มีความไม่สมดุล ซึ่งทำให้เขาต้องดำเนินการแก้ไข
ทางด้านสตีฟ ชวาร์ซแมน ซีอีโอของบริษัทแบล็กโตน (Blackstone) กล่าวในงานประชุมเดียวกัน และได้เปิดเผยว่าผลสำรวจความเห็นของผู้บริหารบริษัทในเครือ 250 แห่งของแบล็กสโตน ซึ่งพบว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงสดใส และไม่มีผู้บริหารคนใดคาดการณ์ว่าปีนี้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ประกาศว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารที่ 4 มี.ค. ตามกำหนด พร้อมกับยืนยันว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 20% แต่ยังไม่กำหนดวันที่จะมีผลบังคับใช้ โดยปธน.ทรัมป์มองว่าทั้งสามประเทศไม่ได้ดำเนินการมากพอในการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย เช่น เฟนทานิล เข้าสู่สหรัฐฯ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่ามาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ซึ่งจะใช้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ นั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.ตามกำหนดเช่นกัน
การประกาศมาตรการดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก และได้ฉุดราคาน้ำมันปรับตัวลงด้วย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะส่งผลให้ประเทศคู่ค้าใช้มาตรการตอบโต้และนำไปสู่สงครามการค้า