บริษัทเกาหลีใต้ที่มีธุรกิจในแคนาดาและเม็กซิโกเตรียมรับมือแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสองประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ ในวันนี้ (4 มี.ค.)
ปธน.ทรัมป์ประกาศเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) ว่า สหรัฐฯ จะเริ่มเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกตั้งแต่วันอังคาร (4 มี.ค.) โดยย้ำว่าทั้งสองประเทศไม่มีทางเลี่ยงมาตรการนี้ได้
ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างเกาหลีใต้กับแคนาดาและเม็กซิโกในปี 2566 แตะ 1.462 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ
Korea CXO Institute สถาบันวิเคราะห์ข้อมูลองค์กรในเกาหลีใต้ระบุว่า กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ 25 แห่งมีบริษัทย่อย 201 แห่งในสองประเทศนี้ เมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2567 โดย 110 แห่งอยู่ในแคนาดา และ 91 แห่งอยู่ในเม็กซิโก
กลุ่มซัมซุง กรุ๊ป (Samsung Group) ครองอันดับ 1 ด้วยจำนวน 50 บริษัทในแคนาดาและ 18 บริษัทในเม็กซิโก ส่วนกลุ่มฮุนไดมอเตอร์ (Hyundai Motor) มีบริษัทย่อย 16 แห่งในเม็กซิโกและ 12 แห่งในแคนาดา
ในบรรดาสองประเทศนี้ เม็กซิโกถือเป็นศูนย์กลางการส่งออกเพื่อเจาะตลาดอเมริกาเหนือ เนื่องจากมีต้นทุนค่าแรงที่ต่ำ และสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)
ทั้งนี้ ในปี 2566 เกาหลีใต้ครองตำแหน่งประเทศที่มีการลงทุนโดยตรงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ในเม็กซิโก