สำนักงานบิตคอยน์แห่งชาติเปิดเผยผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า เอลซัลวาดอร์ประกาศซื้อบิตคอยน์ (Bitcoin) เพิ่มในวันพุธ (5 มี.ค.) ซึ่งทำให้กองทุนสำรองคริปโทเคอร์เรนซีเชิงกลยุทธ์ของประเทศถือครองบิตคอยน์เป็นมากกว่า 6,102 เหรียญ
การประกาศซื้อบิตคอยน์ดังกล่าวมีขึ้นในเวลาไม่กี่วันหลังจากที่ประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อนุมัติโครงการเงินกู้มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ระยะเวลา 40 เดือนให้กับเอลซัลวอดอร์ ซึ่งแสดงถึงการลดสถานะของคริปโทเคอร์เรนซีในประเทศ กล่าวคือจะไม่สามารถใช้บิตคอยน์ชำระภาษีได้ และการยอมรับจากประชาชนเป็นเรื่องของความสมัครใจ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังไว้เมื่อครั้งที่บิตคอยน์ได้รับสถานะเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในปี 2564
IMF ระบุว่า รัฐบาลได้ให้คำมั่นกับ IMF ว่าจะไม่สะสมบิตคอยน์เพิ่มเติมในระดับภาคสาธารณะ
"เราได้ปรึกษาหารือกับทางการเอลซัลวาดอร์แล้ว และพวกเขายืนยันกับเราว่า การถือครองบิตคอยน์เพิ่มขึ้นล่าสุดของกองทุนสำรองคริปโทเคอร์เรนซีเชิงกลยุทธ์ สอดคล้องกับเงื่อนไขของโครงการที่ตกลงกันไว้" โฆษก IMF กล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เอลซัลวาดอร์ซื้อบิตคอยน์ไปแล้ว 12 เหรียญนับตั้งแต่ที่ IMF ประกาศอนุมัติโครงการเงินกู้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากที่สองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกันเมื่อเดือนธ.ค. โดยในปัจจุบัน เอลซัลวาดอร์ถือครองบิตคอยน์อยู่เกือบ 550 ล้านดอลลาร์