ที่ปรึกษาเศรษฐกิจคนสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาปัดกระแสภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของรัฐบาล แม้ผลสำรวจครัวเรือนสหรัฐฯ จะชี้ว่าผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตเพิ่มขึ้น และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างหนัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เควิน แฮสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มี.ค.) ว่า มีเหตุผลหลายประการที่ควรมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในแง่บวก แม้จะมีการคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกจะหดตัว รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
แฮสเซ็ตต์กล่าวว่า มาตรการภาษีศุลกากรที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บจากแคนาดา จีน และเม็กซิโก กำลังส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการผลิตและดึงงานกลับคืนสู่สหรัฐฯ ตามที่ตั้งเป้าไว้
"มีเหตุผลมากมายที่ทำให้เรามองเศรษฐกิจในอนาคตในแง่ดี แต่แน่นอนว่าในไตรมาสนี้ ข้อมูลอาจมีความผันผวนอยู่บ้าง" แฮสเซตต์กล่าวเสริม พร้อมชี้ว่าสิ่งเหล่านี้มาจากผลกระทบด้านจังหวะเวลาของการบังคับใช้ภาษีศุลกากรอย่างรวดเร็วของปธน.ทรัมป์ และบางส่วนมาจากสิ่งที่เขาเรียกว่า "มรดกตกทอดจากไบเดน"
แฮสเซ็ตต์แจงว่า ปรากฏการณ์นี้จะเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากแนวโน้มที่นักลงทุนมักชะลอการลงทุนหลังการเลือกตั้งครั้งใหญ่ โดยแนวโน้มดังกล่าวน่าจะคลี่คลายในเดือนนี้ ขณะที่ความไม่แน่นอนด้านภาษีศุลกากรคาดว่าจะได้รับการแก้ไขในเดือนเม.ย.
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ (Fox News) ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปฏิเสธที่จะคาดการณ์ว่านโยบายเศรษฐกิจของเขา ซึ่งเน้นการประกาศภาษีศุลกากรอย่างรวดเร็ว จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่