บริษัทรถยนต์มะกันส่อกำไรหด หลังภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียมดันต้นทุนพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 13, 2025 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บังคับใช้เมื่อวันพุธ (12 มี.ค.) คาดว่าจะทำให้ราคานำเข้าสินค้าที่มีมูลค่ารวมประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทรถยนต์อเมริกันและบริษัทในภาคส่วนอื่น ๆ

สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานในวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า สหรัฐฯ นำเข้าเหล็กประมาณ 1 ใน 5 ของปริมาณทั้งหมดที่ใช้ โดยแคนาดาเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% เมื่อพิจารณาตามน้ำหนัก รองลงมาคือบราซิลที่ 16% และสหภาพยุโรป (EU) ที่ 7% ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นซัพพลายเออร์อันดับ 7 ที่ 4% นอกจากนี้ แคนาดายังเป็นผู้ส่งออกอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย

เนื่องจากต้นทุนภาษีตกอยู่กับผู้นำเข้าโดยตรง จึงทำให้ต้นทุนของผู้ผลิตสูงขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ

วูล์ฟ รีเสิร์ช (Wolfe Research) บริษัทวิจัยของสหรัฐฯ คาดว่า อัตราภาษี 25% จะทำให้ราคาเหล็กพุ่งขึ้นถึง 16% จากระดับเฉลี่ยของปี 2567 ขณะที่ราคาอะลูมิเนียมซึ่งมีแนวโน้มขาขึ้นอยู่แล้ว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

อนินดยา ดาส นักวิเคราะห์จากโนมูระ ซีเคียวริตีส์ (Nomura Securities) ได้ทำการประเมินผลกระทบต่อกำไรจากการดำเนินงานในปีงบการเงิน 2568 ของบริษัทรถยนต์ หากราคาเหล็กและอะลูมิเนียมเพิ่มขึ้น 10% จากระดับเฉลี่ยของปี 2567 โดยพบว่า ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) และเจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดราว 3-4% หากไม่สามารถผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้ ขณะที่โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) จะได้รับผลกระทบเพียง 0.5% ส่วนซูบารุ (Subaru) ซึ่งมีฐานการผลิตหลักในอเมริกาเหนือ จะได้รับผลกระทบประมาณ 2%

ข้อมูลจากโกลบอล เทรด อะเลิร์ต (Global Trade Alert) ของสหภาพยุโรป บ่งชี้ว่า มาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์ครอบคลุมสินค้าทั้งหมด 289 ประเภท คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 1.51 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 4.5% ของการนำเข้าทั้งหมดของสหรัฐฯ

จีนเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่ต้องเสียภาษีถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ รองลงมาคือเม็กซิโก 3.06 หมื่นล้านดอลลาร์, สหภาพยุโรป 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์ และแคนาดา 1.71 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนญี่ปุ่นอยู่ในอันดับ 7 ที่ 7 พันล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ บริษัทในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมต่างหันไปใช้วัสดุทางเลือก โดยเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัท โคคา-โคล่า (Coca-Cola) ประกาศว่าจะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์บางส่วนจากอะลูมิเนียมไปเป็นพลาสติก หากมาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์มีผลบังคับใช้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ