ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 178 จุด หรือ -0.43% แตะที่ระดับ 41,672 จุด ณ เวลา 06.40 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ (17 มี.ค.) หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า การที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะปรับฐาน (Correction) ถือเป็นเรื่องที่ปกติ พร้อมกับกล่าวว่า ในระยะยาวนั้น หากรัฐบาลนำนโยบายภาษีมาใช้ มีการผ่อนคลายกฎระเบียบ และมีความมั่นคงด้านพลังงาน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็จะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น"
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการดังกล่าวในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) นายเบสเซนต์ยังกล่าวด้วยว่า ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจจะไม่เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน
-- ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (17 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางการทหารครั้งใหญ่ต่อกลุ่มฮูตีในเยเมน จากการที่กลุ่มฮูตีได้ก่อเหตุโจมตีการเดินเรือในทะเลแดง พร้อมทั้งเตือนอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮูตี ว่าต้องหยุดให้การสนับสนุนในทันที
ณ เวลา 07.16 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1% แตะที่ระดับ 67.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- จีนเปิดเผยแผนงานพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภคในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) ในขณะที่จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังดำเนินการเพื่อผลักดันให้อุปสงค์ในประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนและเสาหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แผนงานที่ออกโดยสำนักงานทั่วไปแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และสำนักงานทั่วไปแห่งสภาแห่งรัฐ มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการบริโภคอย่างจริงจัง กระตุ้นอุปสงค์ในประเทศในทุกระดับ และเพิ่มอำนาจซื้อด้วยการเพิ่มรายได้และลดภาระทางการเงิน
-- เจ้าหน้าที่หลายร้อยคนของวอยซ์ ออฟ อเมริกา หรือวีโอเอ (Voice of America: VOA) เรดิโอ ฟรี เอเชีย (Radio Free Asia) เรดิโอ ฟรี ยุโรป (Radio Free Europe) และสื่ออื่น ๆ ได้รับอีเมลในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งห้ามไม่ให้พวกเขาเข้าไปทำงานที่สำนักงาน พร้อมขอให้ส่งคืนบัตรผ่านสื่อมวลชนและอุปกรณ์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) ขึ้นบัญชี U.S. Agency for Global Media (USAGM) เป็นส่วนหนึ่งของระบบราชการกลางที่ "ไม่จำเป็น"
-- อินโดนีเซียเตรียมลงนามข้อตกลงเพื่อยกเลิกคำสั่งห้ามการส่งประชาชนไปยังซาอุดีอาระเบียซึ่งดำเนินมาเป็นระยะเวลานาน 10 ปี โดยเฉพาะการส่งไปทำงานในบ้านและในภาครัฐ หลังจากได้รับการรับรองจากซาอุดีอาระเบียว่า จะมีการปกป้องแรงงานอย่างเข้มงวด
อับดุล คาดีร์ การ์ดิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการปกป้องแรงงานข้ามชาติเปิดเผยว่า บันทึกความเข้าใจที่จะอำนวยความสะดวกในการจัดหางานให้กับแรงงานข้ามชาติจะถูกลงนามโดยรัฐมนตรีจากทั้งสองประเทศในช่วงปลายเดือนนี้ที่เมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย
-- รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณาออกข้อจำกัดด้านการเดินทางอย่างกว้างขวางสำหรับพลเมืองจากหลายสิบประเทศภายใต้คำสั่งห้ามฉบับใหม่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวและบันทึกภายในระบุรายชื่อทั้งหมด 41 ประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 3กลุ่ม กลุ่มแรกมี 10 ประเทศ รวมถึงอัฟกานิสถาน อิหร่าน ซีเรีย คิวบา และเกาหลีเหนือ ซึ่งจะถูกระงับวีซ่าโดยสมบูรณ์
กลุ่มที่ 2 นั้น มี 5 ประเทศ ได้แก่ เอริเทรีย เฮติ ลาว เมียนมา และซูดานใต้ ที่จะถูกระงับวีซ่าบางประเภท เช่น วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่านักเรียน และวีซ่าผู้อพยพบางส่วน แต่ยังมีข้อยกเว้นในบางกรณี
ส่วนกลุ่มที่ 3 ประกอบด้วย 26 ประเทศ รวมถึงเบลารุส ปากีสถาน และเติร์กเมนิสถาน ซึ่งอาจถูกระงับการออกวีซ่าสหรัฐฯ บางส่วน หากรัฐบาลของประเทศเหล่านั้น "ไม่ดำเนินมาตรการแก้ไขข้อบกพร่องภายใน 60 วัน"
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันนี้ (17 มี.ค.) โดยจีนเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนม.ค.-ก.พ. และอัตราว่างงานเดือนก.พ., อินโดนีเซียเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.พ.
ทางด้านสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)