ยูบีเอส กรุ๊ป (UBS Group) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำ เนื่องจากโอกาสที่สงครามการค้าโลกจะยืดเยื้อมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นักวิเคราะห์ของยูบีเอส รวมถึงเวย์น กอร์ดอน และโจวานนี สโตโนโว ระบุในบันทึกข้อความในวันนี้ (17 มี.ค.) ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มแตะ 3,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วง 4 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากการคาดการณ์เดิมของธนาคารที่ 3,000 ดอลลาร์ โดยความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะยิ่งตอกย้ำบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยรักษามูลค่าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
นอกจากนี้ ยูบีเอสยังชี้ให้เห็นถึงแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่จะบังคับใช้ทั้งภาษีตอบโต้ในวงกว้างและภาษีเพิ่มเติมในบางอุตสาหกรรมในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองคำ ซึ่งทะลุระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) จะได้รับผลประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ซบเซา โดยตลาดคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ยูบีเอสเป็นหนึ่งในหลายธนาคารที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แมคควอรี กรุ๊ป (Macquarie Group) คาดว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่บีเอ็นพี พารีบาส์ (BNP Paribas) ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มราคาทองคำเฉลี่ยอยู่ที่สูงกว่า 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์