สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันศุกร์ (21 มี.ค.) ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิกถอนสถานะทางกฎหมายชั่วคราวของผู้อพยพชาวคิวบา เฮติ นิการากัว และเวเนซุเอลา ประมาณ 532,000 คนในช่วงปลายเดือนเม.ย.
บุคคลเป้าหมายจะถูกยกเลิกใบอนุญาตทำงานและการคุ้มครองจากการถูกเนรเทศภายใต้อำนาจด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่เรียกว่า "parole" ซึ่งกำหนดขึ้นในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดย parole เป็นการอนุญาตให้ผู้อพยพเข้าประเทศชั่วคราวได้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมหรือผลประโยชน์สาธารณะ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มาตรการเพิกถอนดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 24 เม.ย.นี้ หรือ 30 วันหลังจากที่ประกาศอย่างเป็นทางการมีกำหนดเผยแพร่ในเอกสารราชการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Federal Register) ในวันที่ 25 มี.ค.
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) แถลงว่า ผู้อพยพที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนต.ค. 2565 ได้ถูกเรียกร้องให้เดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจภายในระยะเวลา 30 วัน มิฉะนั้น อาจถูกจับกุมหรือเนรเทศ
ทริเซีย แม็กลาฟลิน โฆษกของ DHS ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้อพยพที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศภายใต้โครงการยุคไบเดนที่เรียกว่า CHNV process นั้น ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด