สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) คาดการณ์ว่า หนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 107% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2572 ซึ่งสูงกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยเกิดขึ้นทันทีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
CBO ได้เผยแพร่รายงานแนวโน้มงบประมาณระยะยาวในช่วงปี 2568 - 2598 (Long-Term Budget Outlook: 2025 to 2055) ในวันพฤหัสบดี (27 มี.ค.) โดยระบุว่า หนี้สาธารณะมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ในปี 2572 เนื่องจากรัฐบาลขาดดุลการคลังจำนวนมาก และคาดว่าหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นต่อไปอีกจนถึงระดับ 156% ของ GDP ในปี 2598
รายงานของ CBO ระบุว่า การขาดดุลการคลังจะยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วง 30 ปีข้างหน้า โดยจะแตะที่ระดับ 7.3% ของ GDP ในปี 2598 โดยการขาดดุลดังกล่าวเป็นผลมาจากต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และภาวะขาดดุลการคลังเบื้องต้น (primary deficit) ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายสุทธิสำหรับดอกเบี้ย
ต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการสุขภาพหลัก โดยเฉพาะโครงการเมดิแคร์ (Medicare) และค่าใช้จ่ายสำหรับประกันสังคม โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีข้างหน้านั้น เป็นปัจจัยที่ทำให้การใช้จ่ายของรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (26 มี.ค.) CBO ประมาณการว่าหากไม่มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ ความสามารถในการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐฯ "อาจจะหมดลงในเดือนส.ค. หรือเดือนก.ย."