รัฐบาลเมียนมาเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดในเมียนมาพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,700 รายแล้วในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3,400 ราย และสูญหายกว่า 300 ราย
รายงานระบุว่า ทีมหน่วยกู้ภัยและความช่วยเหลือจากนานาประเทศยังคงหลั่งไหลเข้าสู่เมียนมา หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มี.ค.) ซึ่งเป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษของเมียนมา โดยอินเดีย จีน และไทย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านได้ส่งปัจจัยบรรเทาทุกข์และทีมงานไปให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมา เช่นเดียวกับมาเลเซีย สิงคโปร์ และรัสเซียที่ส่งความช่วยเหลือและบุคลากรไปยังเมียนมาเช่นกัน
-- ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวลงในวันนี้ (31 มี.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เม.ย. นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์เตรียมใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ในวันที่ 2 เม.ย.เช่นกัน
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (29 มี.ค.) ว่า เขาไม่ได้สั่งห้ามผู้บริหารอุตสาหกรรมยานยนต์เรื่องการขึ้นราคา แม้ภาษีนำเข้ารถยนต์ใกล้มีผลบังคับใช้ พร้อมย้ำว่า "ไม่สนใจเลย" หากผู้ผลิตเหล่านั้นปรับราคาขึ้น
รายงานระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้ากับสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำต่างประเทศและก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่อาจสูงขึ้น
-- แหล่งข่าววงในเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (29 มี.ค.) ว่า จีนกำลังเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อผลักดันการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจส่งผลต่อพลวัตความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศกับสหรัฐฯ
ผู้กำหนดนโยบายของจีนมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็น "โอกาสเชิงยุทธศาสตร์" ที่จะเข้าหาญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เนื่องจากการฟื้นนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" (America First) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจกระทบความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับสองชาติพันธมิตรในเอเชีย นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่าต้องการกลับมาเจรจากับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออีกครั้ง
-- กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ประกาศยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟชินโมเอดาเกะ ในภูมิภาคคิวชู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ จากระดับ 2 เป็นระดับ 3 พร้อมสั่งห้ามเข้าใกล้พื้นที่ภูเขาไฟ หลังพบสัญญาณกิจกรรมภูเขาไฟที่ทวีความรุนแรงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเตือนภัยครั้งนี้มีขึ้นหลังจากตรวจพบแผ่นดินไหวที่เกี่ยวข้องกับภูเขาไฟเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ (28 มี.ค.) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของพื้นดิน ซึ่งบ่งชี้ว่าภูเขากำลังขยายตัว
-- รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งจดหมายเตือนไปยังบริษัทในฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป (EU) ที่ทำสัญญากับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแจ้งให้ปฏิบัติตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ห้ามดำเนินโครงการส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก (DEI) หากต้องการรักษาสัญญาจ้าง
เอกสารระบุว่า "ผู้รับจ้างของกระทรวงการต่างประเทศต้องยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินโครงการ DEI ที่ขัดต่อกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ และต้องยอมรับว่าการรับรองดังกล่าวมีผลต่อการตัดสินใจจ่ายเงินของรัฐบาล ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายการเรียกร้องเท็จ"
-- ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในวันนี้ (31 มี.ค.) ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนก.พ., จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตเดือนมี.ค.,เยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. (ประมาณการเบื้องต้น) และสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดสาขาดัลลัส