ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ (4 เม.ย.) ว่า ภาษีศุลกากรที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเรียกเก็บจากสินค้าญี่ปุ่นนั้น ถือได้ว่าเป็น "วิกฤตระดับชาติ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อิชิบะกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 24% เรียกได้ว่าเป็นวิกฤตระดับชาติ และรัฐบาลกำลังพยายามอย่างเต็มที่ร่วมกับทุกฝ่ายในการรับมือกับสถานการณ์นี้
เมื่อวันพฤหัสบดี (3 เม.ย.) อิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง ทั้งที่ญี่ปุ่นเคยพยายามร้องขอยกเว้นภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ แล้วก็ตาม นอกจากนี้ อิชิบะแย้งว่า ญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2562 โดยผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นลงทุนโดยตรงในสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าราว 418 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังสร้างงานมากถึง 2.3 ล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ อีกด้วย
อิชิบะเน้นย้ำว่า การขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ไม่เพียงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในระดับทวิภาคีเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและระบบการค้าพหุภาคีด้วย